JW subtitle extractor

รายงานจากคณะกรรมการปกครองปี 2024 ตอน 2

Video Other languages Share text Share link Show times

ยินดีต้อนรับสู่รายงานตอนใหม่ครับ
การประชุมประจำปี 2023
ส่งผลยังไงกับคุณบ้าง?
จำได้ไหมครับการประชุมนั้นเน้นว่า
พระยะโฮวาเป็นผู้พิพากษา
โลกทั้งสิ้นที่มีความเมตตา
เราตื่นเต้นที่ได้รู้ว่าคนที่ตาย
ในช่วงน้ำท่วมโลกสมัยโนอาห์
ในการทำลายเมืองโสโดมและเมืองโกโมราห์
รวมถึงบางคนที่อาจกลับใจ
ในช่วงความทุกข์ยากลำบากครั้งใหญ่
อาจได้รับประโยชน์จาก
ความเมตตาของพระยะโฮวา
เมื่อได้รู้เรื่องเหล่านี้
คงมีหลายอย่างที่ทำให้คุณคิดถึง
ความเมตตาของพระยะโฮวา
คณะกรรมการปกครองก็เป็นอย่างนั้นด้วย
เราได้ศึกษาอย่างจริงจัง
ใคร่ครวญและพูดคุยกัน
โดยเน้นเป็นพิเศษในเรื่องที่ว่า
พระยะโฮวามีท่าทียังไง
กับคนที่ทำบาปร้ายแรง
ในรายงานครั้งนี้
เราจะมาดูในคัมภีร์ไบเบิลด้วยกันว่า
พระยะโฮวามีท่าทียังไงกับพวกเขา?
จากนั้นเราจะมาคุยกันเกี่ยวกับคำแนะนำใหม่
ว่าเราจะปฏิบัติกับคนที่ทำผิดร้ายแรงยังไง
ในประชาคมคริสเตียน
2 เปโตร 3:9 บอกเราว่า
“พระยะโฮวาไม่อยากให้ใครต้องถูกทำลาย
แต่อยากให้ทุกคนกลับตัวกลับใจ”
ข้อนี้สอนอะไรเราครับ?
นี้ทำให้เราเข้าใจว่า
พระยะโฮวาอยากให้ผู้คนกลับใจและได้ชีวิต
ตอนที่มนุษย์คู่แรกไม่เชื่อฟัง
พวกเขาทำให้มนุษย์ทุกคน
ได้รับบาปและต้องตาย
พระยะโฮวาทำยังไงครับ?
พระองค์ลงมือทันที
เพื่อช่วยลูกหลานของพวกเขา
ให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้เพื่อจะได้ชีวิต
โดยทางค่าไถ่ของพระเยซู
พระยะโฮวาจัดเตรียมการให้อภัยบาป
สำหรับทุกคนที่แสดงความเชื่อและกลับใจ
แล้วพวกเขาก็จะมีชีวิตตลอดไป
ดังนั้น เราเลยไม่แปลกใจ
เมื่อได้อ่านในคัมภีร์ไบเบิลว่า
พระยะโฮวาสนใจเป็นพิเศษ
เพื่อจะช่วยคนบาปให้กลับใจ
พระองค์กระตุ้นคนที่เลิกนมัสการพระองค์
ให้กลับมา
เรื่องนี้สอดคล้องกับโรม 2:4 ซึ่งบอกว่า
“พระเจ้ากรุณาต่อคุณมาก
และอยากให้คุณกลับใจ
แล้วคุณจะดูหมิ่นความกรุณา
และความอดทนอดกลั้น
ที่พระองค์มีอย่างมากมาย
ต่อมนุษย์อย่างนั้นหรือ?”
ให้เรามาดูบางตัวอย่าง
ที่พระยะโฮวาพยายามช่วยคนบาปให้กลับใจ
คาอินเคียดแค้นอาเบลน้องชายของเขามาก
แต่พระยะโฮวาไปหาเขา
พยายามหาเหตุผลกับเขา
ตอนที่ดาวิดทำบาป
พระยะโฮวาใช้ผู้พยากรณ์นาธัน
เพื่อช่วยให้ดาวิดกลับใจ
และจะว่ายังไงกับชาติอิสราเอล?
พระยะโฮวาก็ยังขอร้องพวกเขา
ทั้งๆที่พวกเขาไม่มีทีท่าที่จะกลับใจเลย
เอเสเคียล 33:11
พระยะโฮวาบอกชาติอิสราเอลว่า
“เราสาบานโดยเอาตัวเราเป็นประกันว่า
เราไม่ดีใจเลยที่คนชั่วตาย
แต่เราอยากให้เขาเลิกทำชั่ว
และมีชีวิตอยู่ต่อไป
ชาวอิสราเอล เลิกเถอะ เลิกทำชั่วซะ
ทำไมพวกเจ้าต้องหาเรื่องให้ตัวเองตายด้วย”
เรื่องนี้สอนอะไรเรา?
แม้พระยะโฮวาไม่บังคับใคร
ให้กลับใจจากบาป
แต่พระองค์ก็ยังแสดง
ความเมตตาสงสารอย่างมาก
กับมนุษย์ไม่สมบูรณ์แบบ
พระองค์พยายามมากเพื่อจะให้อภัย
พระองค์ถึงกับขอร้องคนบาป
และช่วยพวกเขาให้กลับใจ
ถ้านั่นเป็นไปได้
พระเจ้าที่เรานมัสการ
เป็นพระเจ้าที่เมตตาและใจดีจริงๆ
คณะกรรมการปกครอง
ได้อธิษฐานและคุยกันว่า
เราจะสะท้อนความเมตตา
ของพระยะโฮวาให้ดีขึ้นได้ยังไง
เมื่อจัดการกับคนที่ทำผิด
นี่เลยทำให้เราเข้าใจ
ข้อคัมภีร์ 3 ข้อต่อไปนี้ชัดเจนมากขึ้น
มาดูข้อแรกด้วยกันครับ
ที่ 2 ทิโมธี 2:24, 25
เปาโลบอกว่า
“ทาสของผู้เป็นนายไม่ควรทะเลาะวิวาทกับใคร
แต่ต้องสุภาพอ่อนโยนกับทุกคน
มีความสามารถที่จะสอน
รู้จักควบคุมตัวเอง เมื่อมีคนทำไม่ดีกับเขา
สั่งสอนคนที่ไม่เชื่อฟังด้วยความอ่อนโยน
เพราะพระเจ้าอาจให้โอกาสเขากลับใจ
แล้วรับความรู้ที่ถูกต้องเรื่องความจริง”
เปาโลหมายถึงใครเมื่อพูดถึง
“คนที่ไม่เชื่อฟัง”
ข้อมูลสำหรับศึกษา (ภาษาอังกฤษ)
ที่ 2 ทิโมธี 2:25 บอกว่า
“ในท้องเรื่องนี้
เปาโลใช้คำภาษากรีกที่หมายถึง
คนที่ต่อต้านคำสอนของคริสเตียน
หรือคนที่ทำสิ่งที่ขัดกับคำสอนเหล่านั้น
เปาโลอาจนึกถึงคนในประชาคม
ในเมืองเอเฟซัส
ที่มีทัศนะในแง่ลบ
ต่อการทำตามคำแนะนำในพระคัมภีร์
หรือการเชื่อฟังคำตักเตือน
จากพี่น้องที่นำหน้า”
ทุกวันนี้ ก็อาจมีพี่น้องชายหญิง
บางคนในประชาคม
ที่ไม่ฟังคำแนะนำจากพระคัมภีร์
และทำผิดร้ายแรง
บางคนที่ทำผิดร้ายแรง
จำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือจากผู้ดูแล
คณะกรรมการที่ประกอบด้วยผู้ดูแล
ก็จะคุยกับคนที่ทำผิด
เป้าหมายของผู้ดูแลเหล่านี้
ไม่ใช่ไปเพื่อตัดสินว่า
คนที่ทำผิดกลับใจไหม
แต่เพื่อทำตามคำแนะนำ
ที่ 2 ทิโมธี 2:24, 25
ผู้ดูแลต้องช่วยแก้ไข
และสั่งสอนคนที่ทำผิดด้วยความอ่อนโยน
เป้าหมายของพวกเขาคืออะไร?
ข้อสังเกตข้อมูลศึกษาอีกส่วนหนึ่ง
ใน 2 ทิโมธี 2:25
“เมื่อผู้ดูแลคริสเตียนแก้ไขหรือสั่งสอน
‘คนที่ไม่เชื่อฟังด้วยความอ่อนโยน’
ก็อาจเกิดผลดีเป็นการกลับใจ หรือ ‘เปลี่ยนใจ’ .
การเปลี่ยนแปลงความคิดและทัศนะแบบนี้
ไม่ใช่ผลงานของมนุษย์คนใดคนหนึ่ง
แต่เป็นผลงานของพระยะโฮวา
ผู้ช่วยให้คริสเตียนที่ดื้อรั้น
ทำการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญนี้
เปาโลพูดต่อไปถึงผลที่ยอดเยี่ยมบางอย่าง
ของการกลับใจคือ
การช่วยให้คนบาปรับความรู้ที่ถูกต้องมากขึ้น
ในเรื่องความจริง
ช่วยให้เขาได้สติอีกครั้ง
และช่วยให้เขาหลุดพ้นจากกับดักของซาตาน
ดังนั้น ผู้ดูแลมีเป้าหมาย
ที่จะช่วยคนที่ทำผิดให้กลับใจ
ความเข้าใจที่ชัดเจนจาก 2 ทิโมธี 2:24, 25
จะช่วยเราในเรื่องนี้ยังไง?
ปัจจุบันนี้ คณะกรรมการที่ประกอบด้วยผู้ดูแล
จะพบกับผู้ที่ทำผิดแค่ครั้งเดียว
แต่คณะกรรมการปกครองตัดสินใจว่า
คณะกรรมการฯอาจเลือกที่จะพบกับคนนั้น
มากกว่าหนึ่งครั้ง
ทำไมครับ?
ที่วิวรณ์ 2:21
พระเยซูพูดกับผู้หญิงแบบเยเซเบลว่า
“ผมให้เวลาเธอกลับใจ”
เราหวังว่า
โดยการที่ผู้ดูแลพยายามแสดงความรัก
พระยะโฮวาจะช่วยคริสเตียนที่ทำผิด
ให้ได้สติและกลับใจ
ถ้าเขากลับใจ
คณะกรรมการฯก็จะเยี่ยมบำรุงเลี้ยง
เพื่อช่วยเขาให้หลุดพ้นจากกับดักของซาตาน
และทำทางเดินของเขาให้ตรงอยู่เสมอ
การที่ผู้ดูแลทำแบบนี้
ก็กำลังเลียนแบบพระยะโฮวา
ตอนที่พระองค์พยายามช่วยดาวิด
และชาติอิสราเอลให้กลับใจ
แล้วถ้าผู้เยาว์ที่รับบัพติศมาแล้ว
ซึ่งอายุต่ำกว่า 18 ปี
ทำผิดร้ายแรงล่ะควรทำยังไง?
การจัดเตรียมก่อนหน้านี้
ผู้เยาว์ที่รับบัพติศมาแล้ว
พร้อมกับพ่อแม่ของเขา
จะพบกับคณะกรรมการฯ
แต่สำหรับการจัดเตรียมใหม่
ผู้ดูแลสองคนจะพบกับเขาพร้อมกับพ่อแม่
ผู้ดูแลจะดูว่า
พ่อแม่ได้ทำอะไรไปแล้วบ้าง
เพื่อช่วยลูกของพวกเขาให้กลับใจ
ถ้าผู้เยาว์มีทัศนะที่ดี
และพ่อแม่กำลังจัดการเรื่องนั้นอยู่
ผู้ดูแลทั้งสองก็อาจตัดสินใจว่า
ยังไม่จำเป็นต้องทำอะไรมากกว่านี้
แน่นอนผู้ดูแลก็จะตรวจสอบกับพ่อแม่เป็นระยะ
เพื่อให้แน่ใจว่าผู้เยาว์ได้รับ
ความช่วยเหลือด้านความเชื่อที่จำเป็น
แต่
ถ้าผู้เยาว์ที่รับบัพติศมาแล้ว
ยังทำผิดต่อไปและไม่กลับใจ
คณะกรรมการที่ประกอบด้วยผู้ดูแล
ก็จะพบกับเขาพร้อมกับพ่อแม่
คณะกรรมการปกครองมั่นใจว่า
การปรับเปลี่ยนนี้
เป็นการเลียนแบบพระยะโฮวา
ที่จะช่วยคนที่ทำผิดให้กลับใจ
พระองค์อยากจะช่วยพวกเขาให้ได้สติ
และหลุดพ้นจากกับดักของมาร
พระองค์ไม่อยากให้ใครต้องถูกทำลาย
แต่อยากให้ทุกคนกลับตัวกลับใจ
ให้เรามาดูข้อคัมภีร์ข้อที่ 2 ด้วยกันครับ
ที่ 1 โครินธ์ 5:13 บอกว่า
“พวกคุณต้องกำจัดคนชั่ว
ออกไปจากพวกคุณ”
คัมภีร์ไบเบิลสอนชัดเจนว่า
ต้องกำจัดคนที่ทำผิดและไม่กลับใจ
ออกไปจากประชาคม
ซึ่งจริงๆแล้ว
นี่ก็เป็นผลจากการตัดสินใจของเขาเอง
เพราะอะไรครับ?
เพราะเขาไม่ยอมรับการช่วยเหลือที่ผู้ดูแล
พยายามช่วยเขาให้กลับใจ ด้วยความรัก
หลายต่อหลายครั้ง
แม้แต่ตอนที่ผู้ดูแลไปบอกกับคนที่ทำผิดว่า
เขาถูกตัดออกจากประชาคม
เขาก็ไม่ถูกปล่อยให้รู้สึกสิ้นหวัง
ผู้ดูแลจะไม่เพียงอธิบายว่า
เขาต้องทำยังไง
เพื่อจะถูกรับกลับเข้ามาในประชาคมอีก
แต่ผู้ดูแลจะทำยังไง?
ผู้ดูแลจะบอกกับเขาว่า
อยากจะพบเขาอีกครั้ง
หลังจากผ่านไปไม่กี่เดือน
เพื่อดูว่าเขากลับใจไหม
ถ้าคนนั้นเต็มใจที่จะพบกัน
ผู้ดูแลก็จะชวนเขาอย่างอบอุ่นให้กลับใจ
และกลับเข้ามาในประชาคม
แล้วควรทำยังไงกับคนที่ถูกตัดสัมพันธ์ในอดีต
ซึ่งอาจนานหลายปีมาแล้ว
ในบางกรณี
พวกเขาอาจจำเหตุผล
ที่ถูกตัดสัมพันธ์ไม่ได้ด้วยซ้ำ
พวกเขาอาจเลิกทำผิดมาหลายปีแล้ว
คณะกรรมการปกครองตัดสินใจว่า
ผู้ดูแลควรไปเยี่ยมคนเหล่านั้น
อธิษฐานกับเขา
และชวนเขาอย่างอบอุ่น
ให้กลับเข้ามาในประชาคม
ถ้าคนหนึ่งออกจากประชาคมไปนานแล้ว
ความเชื่อของเขาคงต้องอ่อนแอมากๆ
แต่ถ้าคนที่เคยถูกตัดสัมพันธ์เต็มใจ
ผู้ดูแลก็อาจจัดให้มีการ
ศึกษาคัมภีร์ไบเบิลกับเขา
แม้เขายังไม่ได้ถูกรับกลับด้วยซ้ำ
สิ่งสำคัญคือ ตัวเขาเองต้องรู้สึก
อยากกลับเข้ามาในประชาคม
และผู้ดูแลเท่านั้นต้องเป็น
คนจัดให้มีการศึกษาแบบนี้
เพื่อเลียนแบบความเมตตาของพระยะโฮวา
ที่มีต่อคนบาปที่ไม่สมบูรณ์แบบ
คณะกรรมการปกครองอยากช่วย
ให้พวกเขารู้ว่า
เรายินดีต้อนรับพวกเขาอย่างอบอุ่น
ให้กลับเข้ามาในประชาคม
ถ้าคุณที่ถูกตัดสัมพันธ์กำลังดูรายงานนี้อยู่
เราขอกระตุ้นคุณให้ตอบรับ
ความพยายามของผู้ดูแล
ที่ช่วยคุณกลับเข้ามาในประชาคม
ถึงแม้คุณจะอยู่ในที่ที่ไม่รู้จักผู้ดูแลท้องถิ่น
แต่คุณก็สามารถติดต่อ
หรือไปที่หอประชุมท้องถิ่น
แล้วขอให้ผู้ดูแลช่วยคุณด้านความเชื่อได้
พระยะโฮวาและคณะกรรมการปกครอง
อยากให้คุณกลับมา
ในการทำตามคำสั่งที่บอกไว้
ที่ 1 โครินธ์ 5:11
เมื่อมีใครบางคนถูกตัดออกจากประชาคม
เราก็จะเลิกคบกับคนนั้น
ไม่แม้แต่จะกินอะไรกับคนแบบนั้น
นี่หมายความว่าเราจะไม่ยุ่งเกี่ยว
กับคนที่ถูกตัดออกจากประชาคมอีก
แต่นี่ไม่ได้หมายความว่า
คริสเตียนจะเชิญคนที่ถูกตัดสัมพันธ์
ให้มาร่วมการประชุมไม่ได้
คนที่ถูกตัดสัมพันธ์อาจจะเป็นญาติ
อดีตนักศึกษาพระคัมภีร์
หรือคนที่เราเคยสนิทด้วยในอดีต
นี่เป็นการปรับเปลี่ยนที่เหมาะกับเวลา
ในตอนนี้จริงๆ
เรากำลังเตรียมการประชุมอนุสรณ์
ซึ่งเป็นการประชุมที่สำคัญที่สุดในปีนี้
ซึ่งตรงกับวันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม
เราจะทำยังไงถ้าคนที่ถูกตัดสัมพันธ์
มาร่วมการประชุม
ก่อนหน้านี้เราได้รับคำแนะนำว่า
เราจะไม่ทักทายคนที่ถูกตัดออกจากประชาคม
แต่ตอนนี้ คณะกรรมการปกครองตัดสินใจว่า
ผู้ประกาศสามารถใช้
ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของตัวเอง
ตัดสินใจว่าจะทักทายสั้นๆ
และต้อนรับคนที่ถูกตัดสัมพันธ์
ที่มาร่วมการประชุมหรือไม่
สวัสดีครับ ดีใจที่คุณมาวันนี้นะครับ
ขอบคุณคะ
ถึงแม้ว่าเราจะไม่ชวนเขาพูดคุยกันต่อ
หรือคบหากับเขา
แต่เราไม่จำเป็นต้องทำเหมือนกับว่า
เขาไม่มีตัวตน
ตอนนี้เราจะคุยกันในข้อคัมภีร์ที่ 3
ที่ 2 ยอห์น 9-11
ที่นั่นอ่านว่า
“คนที่ไม่ทำตามคำสอนของพระคริสต์
และทำเกินขอบเขต
พระเจ้าจะไม่ยอมรับเขา
แต่คนที่ทำตามคำสอนนั้น
พระเจ้าผู้เป็นพ่อ
และลูกของพระองค์จะยอมรับเขา
ถ้ามีใครมาหาพวกคุณ
แต่สอนสิ่งที่ขัดแย้งกับคำสอนของพระคริสต์
อย่าเชิญเขาเข้าบ้าน และอย่าทักทายเขา
เพราะคนที่ทักทายเขา
ก็ถือว่ามีส่วนร่วมในการทำชั่วของเขา”
2 ยอห์น 9-11 บอกเรา
ไม่ให้ทักทายทุกคน
ที่ถูกตัดออกจากประชาคมไหม?
เมื่อพิจารณาท้องเรื่องของข้อคัมภีร์เหล่านี้
คณะกรรมการปกครองได้สรุปว่า
จริงๆแล้วอัครสาวกยอห์น
ได้พูดถึงคนที่ทรยศพระเจ้า
และคนที่ส่งเสริมคนอื่นให้ประพฤติผิด
ด้วยเหตุผลที่ดี
อัครสาวกยอห์นจึงเตือนอย่างหนักแน่น
ไม่ให้คริสเตียนทักทายคนแบบนั้น
เพื่อจะไม่ได้รับอิทธิพลที่ไม่ดีจากเขา
ดังนั้น ถ้ารู้กันดีว่าคนที่ถูกตัดสัมพันธ์คนหนึ่ง
เป็นคนทรยศพระเจ้า
หรือเป็นคนที่ส่งเสริมให้คนอื่นทำผิด
ผู้ดูแลจะไม่ไปเยี่ยมเขา
และพี่น้องคนอื่นๆก็จะไม่ทักทายคนนั้น
หรือเชิญให้เข้าร่วมการประชุมคริสเตียน
ในรายงานนี้
เราได้เห็นว่าพระยะโฮวา
ต้องการช่วยคนที่ทำผิดให้กลับใจ
และเราได้เข้าใจข้อคัมภีร์ 3 ข้อชัดเจนขึ้น
ที่บอกให้เรารู้ว่าเราควรทำยังไงกับคนที่ทำผิด
ตามคำแนะนำที่บอกไว้ใน 2 ทิโมธี 2:24, 25
คณะกรรมการที่ประกอบด้วยผู้ดูแลจะช่วยแก้ไข
และสั่งสอนคนที่ทำผิด
โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยให้เขากลับใจ
และที่ 1 โครินธ์ 5:13
คนที่ไม่ยอมกลับใจ
ต้องถูกตัดออกจากประชาคม
แต่คณะกรรมการฯจะต้องช่วยเขาต่อๆไป
ให้กลับใจและกลับมา
และจะพยายามพบเขาอีกภายในไม่กี่เดือน
เรายังเข้าใจ 2 ยอห์น 9-11 ชัดเจนขึ้นด้วย
ซึ่งเราได้เรียนว่าข้อนี้
ใช้กับคนที่ทรยศพระเจ้า
และคนที่ส่งเสริมให้คนอื่นทำผิดเท่านั้น
ไม่ได้หมายถึงทุกคน
ที่ถูกตัดออกจากประชาคม
นับตั้งแต่มนุษย์คู่แรกทำบาป
พระยะโฮวาพยายามมาก
เพื่อช่วยมนุษย์ให้กลับใจ
พระยะโฮวาไม่ได้เห็นด้วย
หรือปกป้องคนที่ทำผิดที่ไม่กลับใจ
จากผลของการกระทำของเขา
แต่พระยะโฮวา
ยังแสดงความรัก
และอยากให้คนบาปกลับมาคืนดีกับพระองค์
ถ้าเป็นไปได้
พระองค์ไม่อยากให้ใครถูกทำลาย
พระองค์ก็เลยอยากให้พวกเขากลับใจ
ผู้ดูแลมีสิทธิพิเศษได้ทำงานกับพระยะโฮวา
ในการช่วยคนที่ทำผิดให้กลับใจ
เมื่อเราใคร่ครวญความรัก
ความเมตตาสงสารของพระองค์
ก็ทำให้เรายิ่งรักพระองค์มากขึ้น
คุณคงดีใจที่ได้รู้ว่า
ข้อมูลที่เราได้คุยกันในรายงานนี้
จะมีการอธิบายให้คุณเข้าใจอีกครั้ง
ในบทความศึกษา
ของวารสารหอสังเกตการณ์
นอกจากนั้น
ผู้ดูแลจะได้รับคำแนะนำ
เกี่ยวกับวิธีที่จะเอาข้อมูลนี้ไปใช้
ขอพระยะโฮวาพรเรา
ที่พยายามทำตามคำแนะนำเหล่านี้
เพื่อจะเลียนแบบความรัก
และความเมตตาของพระองค์
ก่อนจบรายการ
คณะกรรมการปกครองขอให้ผม
อ่านจดหมายนี้ครับ
คณะกรรมการปกครองได้ตัดสินใจว่า
พี่น้องหญิงอาจเลือกใส่กางเกงสแล็ค
เมื่อเข้าร่วมในงานประกาศ
และเข้าร่วมการประชุมประชาคม
ประชุมหมวด หรือการประชุมใหญ่
ถ้าพี่น้องหญิงเลือกที่จะใส่
กางเกงสแล็คในโอกาสเหล่านั้น
ก็ไม่ควรเป็นแบบลำลอง
แต่เป็นแบบสุภาพ เรียบร้อย และน่านับถือ
เมื่อพี่น้องหญิงมีส่วนในการประชุม
ก็ควรใส่กระโปรง หรือกระโปรงชุดยาว
ถ้าเป็นมาตรฐานการแต่งตัวในประเทศนั้น
พี่น้องหญิงอาจเลือกใส่กระโปรง
หรือกระโปรงชุดยาวก็ได้
ถึงแม้จะไม่มีส่วนในการประชุมก็ตาม
นอกจากนั้น
พี่น้องชายอาจเลือกที่จะไม่ผูกเนกไท
หรือใส่เสื้อสูท เมื่อเข้าร่วมในการประกาศ
และตอนที่เข้าร่วมการประชุมประชาคม
ประชุมหมวด และการประชุมใหญ่
ถ้าพี่น้องชายเลือกที่จะไม่ผูกเนกไท
หรือใส่เสื้อสูทในโอกาสเหล่านั้น
เขาควรแต่งตัวในแบบที่สุภาพ
เรียบร้อย และน่านับถือ ไม่ลำลองเกินไป
เมื่อพี่น้องชายมีส่วนในการประชุม
เขาควรผูกเนกไทและใส่เสื้อสูท
ถ้านั่นเป็นมาตรฐาน
การแต่งตัวของประเทศนั้น
แต่พี่น้องชายบางคนอาจผูกเนกไท
หรือใส่เสื้อสูทก็ได้
แม้ว่าเขาจะไม่มีส่วนในการประชุม
เมื่อไปเยี่ยมชมเบเธล
นับว่าเหมาะสมที่พี่น้องชายจะผูกเนกไท
และใส่เสื้อสูท
และพี่น้องหญิงก็ควรใส่กระโปรง
หรือกระโปรงชุดยาว
ถ้านั่นเป็นมาตรฐาน
การแต่งตัวของประเทศนั้น
เรารักพวกคุณมากจริงๆครับ
นี่คือรายการโทรทัศน์ JW®
จากสำนักงานใหญ่ของพยานพระยะโฮวา