ปกป้องตัวคุณจากข้อมูลเท็จ
Video
Other languages
Share text
Share link
Show times
Hide times
00:00:06
แต่ละวัน00:00:08
00:00:08
คุณคงได้รับข้อมูลมากมาย00:00:10
00:00:10
จากหลายช่องทาง00:00:12
00:00:13
ก็ดีถ้าเราไม่ตกข่าว00:00:15
00:00:15
แต่ปัญหาคือ00:00:16
00:00:16
ไม่ใช่ทุกอย่างที่เราเห็นหรือได้ยินจะเป็นความจริง00:00:20
00:00:20
บางอย่างเป็นข้อมูลเท็จ00:00:22
00:00:22
ความคิดเห็น00:00:23
00:00:23
เรื่องจริงบ้างไม่จริงบ้าง00:00:25
00:00:25
ทฤษฎีสมคบคิด00:00:27
00:00:27
หรือแม้แต่เรื่องโกหกที่ดูน่าเชื่อถือ00:00:30
00:00:31
ข้อมูลเท็จไม่ได้เป็นแค่เรื่องไม่จริง00:00:34
00:00:34
แต่ยังอันตรายด้วย00:00:35
00:00:36
มันอาจทำให้เราตัดสินใจผิดพลาด00:00:39
00:00:41
หรือไม่ฟังคำเตือน00:00:43
00:00:45
แล้วคุณจะปกป้องตัวเองจากข้อมูลเท็จได้ยังไง?00:00:49
00:00:50
คัมภีร์ไบเบิลบอกไว้ที่ โยบ 12:11 ว่า00:00:53
00:00:53
“หูมีไว้ฟังเพื่อจะใคร่ครวญ00:00:56
00:00:56
เหมือนที่ลิ้นมีไว้ชิมรสอาหาร”00:00:59
00:00:59
ถ้าคุณชิมอาหารแล้วเห็นว่ามันเสีย00:01:01
00:01:01
คุณคงคายออกมาแทนที่จะกลืนเข้าไป00:01:04
00:01:05
เหมือนกัน00:01:06
00:01:06
ก่อนที่คุณจะเชื่ออะไร00:01:08
00:01:08
หรือส่งต่อให้คนอื่น00:01:10
00:01:10
คุณก็ต้องใคร่ครวญว่ามันเชื่อถือได้ไหม?00:01:13
00:01:14
มี 2 วิธีที่คุณทำได้00:01:16
00:01:16
วิธีแรก00:01:18
00:01:19
คิดให้ดีว่าต้นตอของข้อมูลนั้นมาจากไหน00:01:23
00:01:23
อย่าคิดว่าเพราะมันดูดีก็เลยไว้ใจได้00:01:27
00:01:28
บางครั้งข้อมูลออนไลน์ที่ดูน่าเชื่อถือ00:01:31
00:01:31
อาจเป็นแค่ข่าวลือ00:01:33
00:01:33
หรือความคิดส่วนตัวของผู้เขียน00:01:36
00:01:36
มีเทคโนโลยีตัดต่อภาพขั้นสูง00:01:38
00:01:38
ที่เรียกว่าดีพเฟค (Deep Fake)00:01:40
00:01:41
คนไม่หวังดีอาจตัดต่อหน้าหรือเสียง00:01:44
00:01:44
เพื่อสร้างข่าวปลอมให้คนอื่นเข้าใจผิด00:01:48
00:01:48
ดังนั้น ถึงแม้ว่าบางเรื่องจะมีคนแชร์กันเยอะ00:01:52
00:01:52
แต่ให้คุณทำตามคำแนะนำใน 1 เธสะโลนิกา 5:2100:01:56
00:01:56
ที่ให้ “ตรวจดูทุกสิ่งให้แน่ใจ”00:01:59
00:02:00
เช็คกับแหล่งอื่นๆ00:02:01
00:02:01
ว่าเรื่องที่คุณได้ยินมาเป็นความจริงไหม?00:02:04
00:02:05
วิธีที่ 200:02:07
00:02:07
ดูว่าเจตนาของเรื่องนั้นคืออะไร00:02:10
00:02:10
เป็นการนำเสนอข้อเท็จจริง00:02:12
00:02:13
หรือเป็นแค่ความเห็นของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเท่านั้นไหม?00:02:16
00:02:17
บางแหล่งข่าวก็อาจจะหยิบข้อมูลแค่บางส่วน00:02:20
00:02:20
มาปั่นให้เป็นกระแสเพื่อทำให้คนคล้อยตาม00:02:24
00:02:24
บางแหล่งก็แพร่ทฤษฎีสมคบคิด00:02:27
00:02:27
เช่น อ้างว่าเหตุการณ์ร้ายๆที่เกิดขึ้น00:02:30
00:02:30
เป็นการวางแผนของคนบางกลุ่ม00:02:33
00:02:33
ข้อมูลแบบนี้ตั้งใจทำให้คนมีอคติและเกลียดชังกัน00:02:37
00:02:38
มันแพร่ไปได้ง่ายและเร็วเหมือนไฟไหม้00:02:42
00:02:42
แต่มันไม่ใช่ความจริง00:02:45
00:02:45
และบางครั้งมันก็เป็นแค่เรื่องที่แต่งขึ้นมา00:02:49
00:02:49
คุณต้องระวังอย่าโดนหลอก00:02:51
00:02:52
แต่ก่อนจะเสียเวลาไปกับการตรวจสอบเรื่องเหล่านี้00:02:55
00:02:56
คุณต้องถามตัวเองก่อนว่า00:02:58
00:02:59
“เรื่องนี้สำคัญกับฉันจริงๆไหม?”00:03:02
00:03:03
วิธีพาดหัวข่าว00:03:05
00:03:05
ก็อาจทำให้เรื่องธรรมดาๆ00:03:07
00:03:07
ดูสำคัญขึ้นมาก็ได้00:03:10
00:03:11
ถ้าคุณตามทุกข่าวที่เด้งขึ้นมา00:03:14
00:03:14
คุณอาจได้รับข้อมูลมากเกินไป00:03:17
00:03:17
หรือเครียดไปกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง00:03:19
00:03:20
ถ้าคุณเริ่มรู้สึกอย่างนั้น00:03:22
00:03:22
ลองปิดแจ้งเตือนบนอุปกรณ์ของคุณ00:03:25
00:03:25
และค้นหาหรืออ่านเฉพาะเรื่องที่จำเป็น00:03:28
00:03:30
ที่จริง00:03:31
00:03:31
ข้อมูลเท็จไม่ได้มีแต่บนโลกออนไลน์เท่านั้น00:03:35
00:03:36
มันอาจจะมาจากเพื่อน00:03:37
00:03:37
หรือคนที่คุณรู้จักดีก็ได้00:03:40
00:03:43
ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะอ่านหรือได้ยินอะไร00:03:47
00:03:47
ไม่ว่ามันจะมาจากเพื่อนหรือมาจากคนอื่น00:03:50
00:03:50
ขอให้จำ สุภาษิต 14:15 ที่บอกว่า00:03:54
00:03:54
“คนขาดประสบการณ์เชื่อคำพูดทุกคำ00:03:57
00:03:57
แต่คนฉลาดคิดก่อนทำเสมอ”00:04:00
00:04:01
พูดง่ายๆก็คือ00:04:02
00:04:02
อย่าเชื่อทุกอย่างที่คุณได้ยินโดยไม่คิดให้ดีก่อน00:04:06
00:04:07
แต่นี่ไม่ได้หมายความว่า00:04:09
00:04:09
เราเชื่อใครไม่ได้เลย00:04:11
00:04:11
ถ้าคุณได้ยินเรื่องอะไรที่ทำให้คุณกังวลหรือสงสัย00:04:15
00:04:15
ขอให้ไปหาคนที่คุณไว้ใจ00:04:17
00:04:17
และมีประสบการณ์มากกว่าคุณ00:04:19
00:04:19
แล้วเขาจะช่วยให้คุณมองออกว่าอะไรคือความจริง00:04:23
00:04:24
ดังนั้น ถ้าคุณตรวจสอบที่มาของข้อมูล00:04:27
00:04:28
คิดถึงเจตนาของเรื่องที่คุณได้ยิน00:04:30
00:04:31
และไม่รับข้อมูลที่ไม่จำเป็น00:04:34
00:04:35
คุณก็จะได้รับข้อมูลจริง00:04:37
00:04:37
ไม่ใช่ข้อมูลเท็จ00:04:38
00:04:38
ซึ่งจะช่วยปกป้องคุณให้ปลอดภัย00:04:41
00:04:41
และตัดสินใจอย่างถูกต้อง00:04:44
ปกป้องตัวคุณจากข้อมูลเท็จ
-
ปกป้องตัวคุณจากข้อมูลเท็จ
แต่ละวัน
คุณคงได้รับข้อมูลมากมาย
จากหลายช่องทาง
ก็ดีถ้าเราไม่ตกข่าว
แต่ปัญหาคือ
ไม่ใช่ทุกอย่างที่เราเห็นหรือได้ยินจะเป็นความจริง
บางอย่างเป็นข้อมูลเท็จ
ความคิดเห็น
เรื่องจริงบ้างไม่จริงบ้าง
ทฤษฎีสมคบคิด
หรือแม้แต่เรื่องโกหกที่ดูน่าเชื่อถือ
ข้อมูลเท็จไม่ได้เป็นแค่เรื่องไม่จริง
แต่ยังอันตรายด้วย
มันอาจทำให้เราตัดสินใจผิดพลาด
หรือไม่ฟังคำเตือน
แล้วคุณจะปกป้องตัวเองจากข้อมูลเท็จได้ยังไง?
คัมภีร์ไบเบิลบอกไว้ที่ โยบ 12:11 ว่า
“หูมีไว้ฟังเพื่อจะใคร่ครวญ
เหมือนที่ลิ้นมีไว้ชิมรสอาหาร”
ถ้าคุณชิมอาหารแล้วเห็นว่ามันเสีย
คุณคงคายออกมาแทนที่จะกลืนเข้าไป
เหมือนกัน
ก่อนที่คุณจะเชื่ออะไร
หรือส่งต่อให้คนอื่น
คุณก็ต้องใคร่ครวญว่ามันเชื่อถือได้ไหม?
มี 2 วิธีที่คุณทำได้
วิธีแรก
คิดให้ดีว่าต้นตอของข้อมูลนั้นมาจากไหน
อย่าคิดว่าเพราะมันดูดีก็เลยไว้ใจได้
บางครั้งข้อมูลออนไลน์ที่ดูน่าเชื่อถือ
อาจเป็นแค่ข่าวลือ
หรือความคิดส่วนตัวของผู้เขียน
มีเทคโนโลยีตัดต่อภาพขั้นสูง
ที่เรียกว่าดีพเฟค (Deep Fake)
คนไม่หวังดีอาจตัดต่อหน้าหรือเสียง
เพื่อสร้างข่าวปลอมให้คนอื่นเข้าใจผิด
ดังนั้น ถึงแม้ว่าบางเรื่องจะมีคนแชร์กันเยอะ
แต่ให้คุณทำตามคำแนะนำใน 1 เธสะโลนิกา 5:21
ที่ให้ “ตรวจดูทุกสิ่งให้แน่ใจ”
เช็คกับแหล่งอื่นๆ
ว่าเรื่องที่คุณได้ยินมาเป็นความจริงไหม?
วิธีที่ 2
ดูว่าเจตนาของเรื่องนั้นคืออะไร
เป็นการนำเสนอข้อเท็จจริง
หรือเป็นแค่ความเห็นของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเท่านั้นไหม?
บางแหล่งข่าวก็อาจจะหยิบข้อมูลแค่บางส่วน
มาปั่นให้เป็นกระแสเพื่อทำให้คนคล้อยตาม
บางแหล่งก็แพร่ทฤษฎีสมคบคิด
เช่น อ้างว่าเหตุการณ์ร้ายๆที่เกิดขึ้น
เป็นการวางแผนของคนบางกลุ่ม
ข้อมูลแบบนี้ตั้งใจทำให้คนมีอคติและเกลียดชังกัน
มันแพร่ไปได้ง่ายและเร็วเหมือนไฟไหม้
แต่มันไม่ใช่ความจริง
และบางครั้งมันก็เป็นแค่เรื่องที่แต่งขึ้นมา
คุณต้องระวังอย่าโดนหลอก
แต่ก่อนจะเสียเวลาไปกับการตรวจสอบเรื่องเหล่านี้
คุณต้องถามตัวเองก่อนว่า
“เรื่องนี้สำคัญกับฉันจริงๆไหม?”
วิธีพาดหัวข่าว
ก็อาจทำให้เรื่องธรรมดาๆ
ดูสำคัญขึ้นมาก็ได้
ถ้าคุณตามทุกข่าวที่เด้งขึ้นมา
คุณอาจได้รับข้อมูลมากเกินไป
หรือเครียดไปกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง
ถ้าคุณเริ่มรู้สึกอย่างนั้น
ลองปิดแจ้งเตือนบนอุปกรณ์ของคุณ
และค้นหาหรืออ่านเฉพาะเรื่องที่จำเป็น
ที่จริง
ข้อมูลเท็จไม่ได้มีแต่บนโลกออนไลน์เท่านั้น
มันอาจจะมาจากเพื่อน
หรือคนที่คุณรู้จักดีก็ได้
ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะอ่านหรือได้ยินอะไร
ไม่ว่ามันจะมาจากเพื่อนหรือมาจากคนอื่น
ขอให้จำ สุภาษิต 14:15 ที่บอกว่า
“คนขาดประสบการณ์เชื่อคำพูดทุกคำ
แต่คนฉลาดคิดก่อนทำเสมอ”
พูดง่ายๆก็คือ
อย่าเชื่อทุกอย่างที่คุณได้ยินโดยไม่คิดให้ดีก่อน
แต่นี่ไม่ได้หมายความว่า
เราเชื่อใครไม่ได้เลย
ถ้าคุณได้ยินเรื่องอะไรที่ทำให้คุณกังวลหรือสงสัย
ขอให้ไปหาคนที่คุณไว้ใจ
และมีประสบการณ์มากกว่าคุณ
แล้วเขาจะช่วยให้คุณมองออกว่าอะไรคือความจริง
ดังนั้น ถ้าคุณตรวจสอบที่มาของข้อมูล
คิดถึงเจตนาของเรื่องที่คุณได้ยิน
และไม่รับข้อมูลที่ไม่จำเป็น
คุณก็จะได้รับข้อมูลจริง
ไม่ใช่ข้อมูลเท็จ
ซึ่งจะช่วยปกป้องคุณให้ปลอดภัย
และตัดสินใจอย่างถูกต้อง
-