JW subtitle extractor

รายงานจากคณะกรรมการปกครองปี 2020 ตอน 4

Video Other languages Share text Share link Show times

ในช่วงที่เกิดการระบาดใหญ่ครั้งนี้
เราได้มีการปรับเปลี่ยนงานรับใช้ทั้งหมดของเราทั่วโลก
รวมถึงการประชุม การประกาศ แม้แต่การคบหากับพี่น้อง
เราถึงกับปรับเปลี่ยนสิ่งที่ได้ปรับเปลี่ยนไปแล้ว
เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์
อย่างที่คุณเห็นแล้ว
การเปลี่ยนแปลงบางอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก
เราอยากชมเชยพวกคุณที่เชื่อฟังคำแนะนำขององค์การ
เรารักพวกคุณทุกคนมาก
และอยากช่วยให้คุณได้นมัสการพระเจ้า
ตามปกติได้อย่างปลอดภัย
เมื่อเราคิดถึงสิ่งที่เราจะทำต่อไป
เป็นเรื่องสำคัญที่จะจำไว้ว่า
การระบาดที่เกิดขึ้นในแต่ละประเทศตอนนี้ร้ายแรงไม่เท่ากัน
บางส่วนของโลกไวรัสโคโรนาเพิ่งเริ่ม
และระบาดไปอย่างรวดเร็ว
ในบางประเทศการระบาดของไวรัสเริ่มลดน้อยลง
และรัฐบาลก็ผ่อนคลายมาตรการไปแล้ว
ดังนั้น เรื่องนี้ส่งผลยังไงต่องานรับใช้ของเรา
ตอนที่ไวรัสเริ่มระบาดไปหลายประเทศ
เราใช้หลักการหนึ่งในคัมภีร์ไบเบิลซึ่งอยู่ที่ สุภาษิต 14:16
สุภาษิต 14:16 ที่นั่นอ่านว่า
“คนฉลาดจะระวังตัวและไม่ทำชั่ว
แต่คนโง่ไม่ระวังและมั่นใจมากเกินไป”
ในช่วงการระบาดนี้ การไม่ระวัง
และมั่นใจมากเกินไปทำให้ผู้คนล้มตาย
แต่อย่างที่สุภาษิตบอกไว้ “คนฉลาดจะระวังตัว”
เราจึงต้องระวังตัวต่อไป
ส่วนใหญ่แล้ว เมื่อรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการบางอย่าง
เราจะรอระยะหนึ่งก่อนถึงจะมีการ
ผ่อนคลายมาตรการของเราในงานรับใช้
นี่ทำให้องค์การของเรามีโอกาสได้ดูก่อนว่า
การผ่อนคลายมาตรการของรัฐบาล
มันส่งผลให้มีการแพร่กระจายของไวรัสมากขึ้นหรือไม่
คณะกรรมการผู้ประสานงานของคณะกรรมการปกครอง
ได้ให้หลักการบางอย่างที่สำคัญ
กับคณะกรรมการสาขาทั่วโลก
เพื่อช่วยพวกเขาประเมินสถานการณ์
เมื่อรัฐบาลเริ่มผ่อนคลายมาตรการภายในประเทศ
เราอยากพูดถึงหลักการ 3 อย่างนั้นให้คุณฟัง
เรามั่นใจว่า การทำตามหลักการนี้เสมอ
ไม่ใช่แค่ทำให้เราปลอดภัยเท่านั้น
แต่เป็นการยกย่องพระยะโฮวาด้วย
อย่างแรก เนื่องจากเรานับถือพระเจ้าผู้สร้าง
เราเลยมองว่าชีวิตมีค่ามาก
รัฐบาลบางประเทศอาจยกเลิกมาตรการ
และให้ผู้คนกลับมาทำงานได้ตามปกติ
เพราะเหตุผลทางเศรษฐกิจ
แต่เราไม่ใช่แบบนั้น การตัดสินใจของเรา
อยู่บนพื้นฐานของความรัก ไม่ใช่เงิน
เราจึงคิดถึงความปลอดภัยของพี่น้องเป็นอันดับแรกต่อไป
แทนที่จะคิดถึงความสะดวกสบายและความชอบส่วนตัว
ปัญญาจารย์ 7:12 เขียนไว้อย่างนี้ครับ ที่นั่นอ่านว่า
“สติปัญญาเป็นเครื่องป้องกัน เหมือนที่เงินเป็นเครื่องป้องกัน
แต่ข้อดีของความรู้และสติปัญญาคือ
ช่วยรักษาชีวิตของคนที่มีสิ่งเหล่านี้”
สอดคล้องกับข้อนี้เราจึงพยายามตัดสินใจอย่างฉลาด
และสมดุลและจะทำอย่างนี้ต่อๆ ไปเพื่อปกป้องชีวิต
ตัวอย่างเช่น ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
เราตัดสินใจไม่เชิญแขกมาร่วมงาน
จบการศึกษาของนักเรียนกิเลียด
เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เลยครับ
แต่การตัดสินใจครั้งนั้นปกป้องพี่น้องในเบเธลนิวยอร์ก
และแขกที่จะมาร่วมงาน
พอหลังจากนั้นไม่กี่วันเราได้รู้ว่านิวยอร์ก
กลายเป็นศูนย์กลางของการแพร่ระบาดของประเทศ
เราขอบคุณพระยะโฮวาที่ช่วยเรา
ตัดสินใจอย่างฉลาดแบบนั้น
บทเรียนคืออะไร?
เพราะเราถือว่าชีวิตมีค่ามากเราจึงต้องทำตาม
การชี้นำแม้ดูเหมือนว่าเราจะระวังตัวมากเกินไป
หรือต้องปรับเปลี่ยนกิจกรรมในงานรับใช้ของเรา
การเชื่อฟังแบบนั้นจะช่วยเราทุกคน
ให้ปลอดภัยเท่าที่เป็นไปได้
ในวีดีโอต่อไปนี้ขอสังเกตว่าพี่น้องที่อยู่ในอเมริกาใต้
ได้ประโยชน์ยังไงจากการเชื่อฟังแบบนี้
ตอนที่โควิด 19 กำลังระบาดหนักในไม่กี่อาทิตย์มานี้
เราจะฟังพี่น้องแอนโทนี คาวาโฮ
คณะกรรมการสาขาบราซิล
และพี่น้องไฮมี ทามาโย คณะกรรมการสาขาเอกวาดอร์
รายงานของพวกเขาแสดงว่า
การเชื่อฟังมีประโยชน์ขนาดไหน
แม้ตอนแรกเราจะไม่เข้าใจเหตุผลของคำแนะนำนั้น
การระบาดของโควิด 19
ได้ทำให้หลายหมื่นคนในบราซิลเสียชีวิต
เราเลยรู้สึกขอบคุณมากที่องค์การให้คำแนะนำ
มาตั้งแต่เนิ่นๆ ซึ่งปกป้องเราจริงๆ ครับ
มีตัวอย่างของพี่น้องหญิงคนนึงที่เป็นหมอครับ
เธอบอกว่า ตอนที่สำนักงานสาขามีคำแนะนำ
ไม่ให้มีการประชุมที่หอประชุม
เธอรู้สึกไม่เห็นด้วยเลย
เพราะตอนนั้นยังไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อในอเมริกาใต้สักคน
และรัฐบาลยังไม่มีมาตรการอะไรออกมาเลย
เธอเลยรู้สึกว่าพี่น้องตื่นตัวเกินเหตุไปหน่อย
แต่เธอก็หาเหตุผลว่าบางครั้งพระยะโฮวาก็มีคำสั่ง
บางอย่างที่มนุษย์อย่างเราไม่ค่อยเข้าใจเท่าไร
เธอก็เลยยอมเชื่อฟังคำแนะนำ
ไม่นานหลังจากที่พี่น้องไม่ได้ประชุมที่หอประชุม
รัฐบาลก็กำหนดมาตรการสั่งห้ามหลายอย่าง
โควิด 19 ก็ระบาดไปอย่างรวดเร็วในบราซิล
และน่าเศร้าที่หลายหมื่นคนเสียชีวิต
พี่น้องหญิงคนนั้นก็เลยบอกว่า
การชี้นำจากองค์การช่วยปกป้องชีวิตจริงๆ
เธอบอกว่า “การเห็นพระยะโฮวารัก
และห่วงใยเราแต่ละคนแบบนี้ยิ่งทำให้
ฉันรู้สึกมั่นใจและไว้ใจพระองค์มากขึ้น”
นี่เป็นแค่ตัวอย่างหนึ่งในหลายๆ ตัวอย่างในบราซิลที่แสดงว่า
การเชื่อฟังคำแนะนำขององค์การมีประโยชน์มากจริงๆ
คำแนะนำที่เราได้รับล่วงหน้าช่วยปกป้อง
ชีวิตของพี่น้องที่เอกวาดอร์จริงๆ
ตัวอย่างเช่น พี่น้องคนหนึ่งที่ชื่อฟาบริซิโอ
รู้สึกมีอาการเหมือนเป็นหวัด
หมอบอกเขาว่าคุณแค่เป็นหวัดธรรมดา
ไม่ได้ติดเชื้อโควิด 19 หรอก
แต่ฟาบริซิโอเชื่อฟังคำแนะนำขององค์การ
ให้อยู่กับบ้านถ้ามีอาการป่วยอย่างใดอย่างหนึ่ง
เขาบอกว่า “ทุกคนในครอบครัวเราตกลงกันว่า
เป็นเรื่องสำคัญมากที่จะเชื่อฟังคำแนะนำนี้
เพราะมันช่วยปกป้องเรา”
เป็นเวลาหลายสัปดาห์ที่ครอบครัวเขา
ไม่ยอมให้คนอื่นเข้ามาในบ้านเลย
แม้แต่ตอนมีญาติมาเยี่ยมพวกเขา
พวกเขาก็ให้ญาติอยู่ข้างนอกบ้านเพื่อจะรักษาระยะห่าง
และในช่วงเดียวกันนั้นก็มีคำแนะนำ
ไม่ให้ประชุมกันที่หอประชุม
อีกหลายสัปดาห์ต่อมาผลตรวจของฟาบริซิโอ
ก็ยืนยันว่าเขาติดเชื้อโควิด 19
รวมทั้ง 3 คนในครอบครัวเขาด้วย
ครอบครัวของฟาบริซิโอดีใจมากที่พวกเขาเชื่อฟัง
คำแนะนำที่ได้รับจากองค์การของพระเจ้า
พวกเขาทำตามคำแนะนำที่ให้รักษาระยะห่าง
แม้ตอนแรกจะมีผลตรวจออกมาว่าเขาไม่ได้ติดเชื้อโควิด 19
นี่ช่วยปกป้องชีวิตของคนอื่นซึ่งรวมถึง
ญาติพี่น้องและพี่น้องในประชาคมด้วย
นี่ช่วยให้เราเห็นค่าคำแนะนำที่ฉลาด
ที่ไม่ให้พี่น้องไปประชุมรวมกันที่หอประชุม
การทำแบบนั้นช่วยป้องกันไม่ให้แพร่เชื้อไปสู่คนอื่นด้วย
เป็นตัวอย่างที่ดีมากเลยครับที่แสดงว่า
การเชื่อฟังคำแนะนำเป็นการปกป้องและเป็นพรจริงๆ
หลักการที่ 2 มาจากโรม 13:1, 2
เราต้องเชื่อฟัง “คนที่มีอำนาจปกครอง” ในรัฐบาล
ซึ่งพระยะโฮวาได้อนุญาตให้พวกเขา
ดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อย
และในข้อ 2 ก็เน้นว่า
การเชื่อฟังเจ้าหน้าที่สำคัญขนาดไหน
โรม 13:2 บอกว่า
“คนที่ต่อต้านอำนาจปกครอง
ก็ต่อต้านการจัดเตรียมของพระเจ้า”
เรารู้ว่าคนที่มีอำนาจปกครองมีอยู่ก็เพราะพระเจ้าอนุญาต
และพระองค์ก็ต้องการให้คริสเตียนเชื่อฟังพวกเขา
ตราบใดที่ข้อเรียกร้องของพวกเขา
ไม่ขัดกับกฎหมายของพระองค์
ในสื่อต่างๆ เต็มไปด้วยข่าวที่บอกว่า
ผู้คนไม่สนใจคำสั่งของรัฐบาลหรือถึงกับประท้วงด้วยซ้ำ
แต่การต่อต้านขัดขืนรัฐบาลก็เท่ากับต่อต้านขัดขืนพระเจ้า
เรารักพระยะโฮวาเราจึงต้องนับถือเจ้าหน้าที่รัฐบาล
นอกจากนั้น เราเชื่อฟังเจ้าหน้าที่เพราะเรารักคนอื่นด้วย
เราสนใจว่าคนอื่นคิดยังไงในเรื่องสุขภาพและความปลอดภัย
เรารู้ว่าหลายคนกลัวว่าการติดต่อเกี่ยวข้อง
กับคนอื่นจะทำให้ติดเชื้อไวรัส
การที่เราทำตามคำแนะนำเรื่องความปลอดภัยของรัฐบาล
และการปรับเปลี่ยนงานประกาศแสดงว่าเราเป็นห่วงคนอื่น
การทำแบบนี้ทำให้เรามีชื่อเสียงที่ดีด้วย
มีตัวอย่างหนึ่งครับ ในประเทศหนึ่งแถบยุโรป
เจ้าหน้าที่รัฐบาลมาเยี่ยมที่สำนักงานสาขาของเรา
เพื่อมาดูว่าเรามีมาตรการอะไรบ้างเพื่อลดการแพร่ระบาด
เมื่อเจ้าหน้าที่รู้ว่าเราจัดการประชุมประชาคม
โดยทางวีดีโอคอล
และเราล็อกดาวน์เบเธลมา 2 อาทิตย์แล้ว
พวกเขาก็ทึ่งมาก เจ้าหน้าที่คนหนึ่งถามว่า
“คุณรู้มาก่อนหรือเปล่าว่าจะมีการระบาดแบบนี้”
พี่น้องเลยอธิบายว่า เราเป็นองค์การ
ระดับโลกที่ให้ความสำคัญกับชีวิตมาก
พวกเราเลยทำตามมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก
พี่น้องสาขานั้นเลยทำตามมาตรการ
ที่จะช่วยให้ทุกคนปลอดภัยเท่าที่เป็นไปได้
และถึงกับทำล่วงหน้าก่อนที่รัฐบาล
จะออกมาตรการต่างๆ ด้วยซ้ำ
เจ้าหน้าที่เหล่านั้นก็ประทับใจมาก
นี่เป็นตัวอย่างที่ดีใช่ไหมครับที่แสดงว่าการเชื่อฟังของเรา
ทำให้ผู้คนชื่นชมองค์การและพระเจ้าของเรา
มันทำให้ผมนึกถึง 1 เปโตร 2:12 ครับ
เมื่อผู้คนเห็นการกระทำที่ดีของพวกเรา
นี่ทำให้พระยะโฮวาได้รับการยกย่องสรรเสริญ
หลักการที่ 3 ที่เราจะพูดถึงก็คือ
ให้ระวังตัว อย่าประมาท
เนื่องจากสถานการณ์นี้ยืดเยื้อนานหลายเดือน
อาจทำให้ยากที่จะตื่นตัวเสมอ
เราอาจทำตัวสบายๆ ปล่อยให้การ์ดตกโดยเฉพาะอย่างยิ่ง
เมื่อรัฐบาลผ่อนปรนมาตรการ
แต่สุภาษิต 22:3 เตือนเราว่า
“คนฉลาดมองเห็นอันตรายแล้วหนีไปซ่อนตัว
แต่คนที่ขาดประสบการณ์เดินต่อไปและได้รับผลเสียหาย”
ดังนั้น เราต้องระวังตัวและเตรียมพร้อม
สำหรับการระบาดอีกรอบ
ผู้เชี่ยวชาญหลายคนบอกว่า
เราต้องรับมือกับการระบาดนี้ไปเรื่อยๆ
จนกว่าจะมียารักษาและพัฒนาวัคซีนให้มีใช้ได้
ทั่วโลกอาจเป็นปี 2021 หรือนานกว่านั้น
นี่หมายความว่าการจัดเตรียมที่เรามีอยู่ตอนนี้
สำหรับการประชุมประชาคม การประชุมใหญ่
และการประกาศอาจต้องทำต่อไปอีกระยะหนึ่ง
และเมื่อเราจะเริ่มกลับไปทำเหมือนเดิมตามปกติ
ก็ต้องทำแบบค่อยเป็นค่อยไปด้วย
เหมือนอย่างที่บอกไว้ในสุภาษิต 14:15
“คนขาดประสบการณ์เชื่อคำพูดทุกคำ
แต่คนฉลาดคิดก่อนทำเสมอ”
คุณมั่นใจได้ว่าเราจะคิดก่อนทำอย่างแน่นอน
และจะปรับการประชุมและงานรับใช้อย่างค่อยเป็นค่อยไป
และแน่นอน เราจะจับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
และถ้ามีการระบาดอีกระลอก
เราก็จะกลับมาใช้มาตรการป้องกันเหมือนเดิม
ดังนั้น เพื่อจะรับมือสถานการณ์ในวันข้างหน้า
ขอให้คิดถึงหลักการ 3 ข้อที่เราได้พูดไป
1. ถือว่าชีวิตมีค่ามาก
2. เชื่อฟังคำสั่งของรัฐบาล
และ 3. ให้ระวังตัวเสมอ อย่าประมาท
เรารู้ว่าการระบาดใหญ่ครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อคุณอย่างมาก
คุณตกงาน ไม่มีรายได้
พวกคุณที่เป็นเด็กๆ ก็ไม่ได้ไปโรงเรียน
และคุณก็ไม่มีโอกาสอยู่กับพี่น้อง
และน่าเศร้ามากที่พวกคุณหลายคน
มีสมาชิกครอบครัวหรือเพื่อนเสียชีวิต
พวกคุณบางคนอาจรู้สึกเหมือนโยบ
ที่เจอเรื่องร้ายๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า
เรารู้สึกเจ็บปวดที่เห็นพวกคุณเจอแบบนี้
และเราอธิษฐานเพื่อพวกคุณทุกวันครับ
เราอยู่ในช่วงที่ลำบากจริงๆ
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนี้อาจฝึกเราให้พร้อม
สำหรับความทุกข์ยากลำบากครั้งใหญ่ในวันข้างหน้า
การฝึกตั้งแต่ตอนนี้ที่จะปรับตัวเรื่องการนมัสการ
การช่วยเหลือกันและกัน และการเชื่อฟังคำแนะนำ
จะช่วยให้เราเข้มแข็งและเตรียมเรา
ให้พร้อมสำหรับปัญหาที่ใหญ่กว่านี้ในอนาคต
เป็นเรื่องที่ให้กำลังใจจริงๆ ที่ได้ยินว่าพี่น้องของเราทั่วโลก
ช่วยเหลือกันในช่วงการระบาดใหญ่
ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์
สิ่งที่คุณทำ ทำให้พระยะโฮวาพระเจ้าได้รับคำสรรเสริญ
พี่น้องจากบราซิลและเอกวาดอร์
ส่งความรักและคำทักทายมาให้
และในนามของคณะกรรมการปกครอง
เราขอขอบคุณทุกอย่างที่คุณทำแม้คุณจะอยู่
ในสถานการณ์ที่ยากลำบากแบบนี้
ขอให้มั่นใจว่า เรารักพวกคุณมาก
นี่คือสถานีโทรทัศน์ JW
จากสำนักงานใหญ่ของพยานพระยะโฮวา