JW subtitle extractor

รายงานจากคณะกรรมการปกครองปี 2022 ตอน 7

Video Other languages Share text Share link Show times

สวัสดีครับพี่น้องที่รักทุกคน
ในรายงานตอนนี้ ผมดีใจมากที่จะได้พูดถึง
กิจกรรมต่างๆที่เรากลับมาทำแบบเจอตัวกัน
และจะพูดถึงงานบรรเทาทุกข์ที่เราทำเพื่อช่วยเหลือพี่น้องด้วย
และสุดท้าย เนื่องจากโลกนี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
เราเลยต้องคุยกันเกี่ยวกับการรีบลงมือทำ
เมื่อเราต้องเจอกับสถานการณ์ที่อันตราย
ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2022
พยานพระยะโฮวาได้กลับมาประกาศตามบ้านอีกครั้ง
และเรายังมีการรณรงค์ทั่วโลกเพื่อเริ่มศึกษาคัมภีร์ไบเบิล
โดยใช้จุลสารชีวิตที่มีความสุขตลอดไป
และหลายคนที่หัวใจดีก็ได้ตอบรับ
‘ข่าวที่ดีกว่า’ ที่อยู่ในคัมภีร์ไบเบิล
ในรายงานตอนที่แล้ว มีคำประกาศว่า
ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พี่น้องสามารถเลือกได้ว่า
จะใส่หน้ากากหรือไม่ใส่ก็ได้เมื่อเข้าร่วมการประชุม
ดังนั้น ถ้ารัฐบาลไม่มีข้อกำหนดในเรื่องนี้
นี่ก็เป็นการตัดสินใจส่วนตัวของแต่ละคน
ว่าจะใส่หน้ากากหรือไม่ตอนที่ทำกิจกรรมขององค์การ
พวกเราแต่ละคนต้องนับถือและเคารพ
การตัดสินใจของพี่น้องในเรื่องนี้ครับ
คำแนะนำนี้ยังใช้ได้กับกิจกรรมต่างๆที่เราจะจัดแบบเจอตัวกัน
ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนขององค์การ
การประชุมหมวด และการประชุมภูมิภาคปี 2023
ตั้งแต่ 1 มกราคม 2023
ถ้าเป็นความต้องการของพระยะโฮวา
เราหวังว่าเราจะกลับมาทำกิจกรรมต่างๆ
แบบที่เคยทำก่อนจะมีโรคระบาดได้อีกครั้ง
ถ้าเรื่องนั้นไม่ขัดกับมาตรการของรัฐบาล
มีกิจกรรมบางอย่างที่ยังไม่ได้รับอนุมัติให้กลับมาทำอีก
เช่น การทัวร์เบเธล และรับแขกมานอนในเบเธล
และหลังจากนั้นจะมีอะไรอีก?
เรายินดีที่จะแจ้งให้คุณทราบว่า
ถ้าเป็นความต้องการของพระยะโฮวา
เราจะกลับมาจัดการประชุมพิเศษ
แบบเจอตัวกันตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2024
รายละเอียดเกี่ยวกับวัน เวลา และสถานที่ จะแจ้งให้ทราบเร็วๆนี้ครับ
เราดีใจที่ได้บอกเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงดีๆแบบนี้กับคุณครับ
ในช่วงที่เกิดโรคระบาด
น่าเศร้า
พวกเราหลายคนต้องสูญเสียคนที่เรารักเพราะโควิด-19
บางคนก็สูญเสียคนที่เขารักเนื่องจากสงคราม
ภัยพิบัติทางธรรมชาติ
หรือเหตุการณ์เลวร้ายอื่นๆ
และไม่นานมานี้ คุณอาจมีโอกาสได้บอกข่าวดีที่ให้กำลังใจ
กับเพื่อนร่วมงาน เพื่อนบ้าน และญาติๆ
และเพื่อช่วยคุณในเรื่องนี้
เรายินดีที่จะแจ้งให้ทราบว่า
เรามีวีดีโอใหม่ที่ชื่อว่า
“กำลังใจสำหรับคนที่สูญเสีย”
เรามั่นใจว่า วีดีโอใหม่นี้จะเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์
ซึ่งเราจะใช้เพื่อให้กำลังใจญาติหรือคนที่เรารู้จัก
แม้คนนั้นจะไม่ได้สนใจศาสนาหรือเรื่องพระเจ้า
ให้เราดูวีดีโอใหม่นี้ไปพร้อมๆกันเลยครับ
ครอบครัวและเพื่อนเป็นคนที่มีค่ามากสำหรับเรา
พวกเขารักเรา
และพร้อมจะอยู่เคียงข้างเมื่อเราต้องการความช่วยเหลือ
เมื่อเขาตายจากไป
เราเลยอยากได้กำลังใจจากใครสักคนที่เข้าใจเรา
พระเจ้าและพระเยซูลูกของพระองค์เข้าใจเรา
ตอนพระเยซูอยู่บนโลก ท่านก็เคย
สูญเสียคนในครอบครัวและเพื่อนที่ท่านรัก
ตอนที่ลาซารัสเพื่อนสนิทของพระเยซูตาย
พระเยซูเสียใจมาก
ท่านเจ็บปวดและเข้าใจความรู้สึกของคนที่สูญเสีย
ท่านสงสาร และเข้าไปปลอบพวกเขา
แต่พระเยซูไม่ได้ทำแค่นั้น
ท่านอธิษฐานถึงพ่อของท่าน
และทำให้เพื่อนคนนั้นฟื้นขึ้นจากตาย
ทุกวันนี้ พระยะโฮวาพระเจ้าและพระเยซู
ก็ยังเจ็บปวดทุกครั้งเมื่อมีคนตาย
พระองค์ทั้งสองเข้าใจความเจ็บปวดของคุณ
พระเจ้าเลยสัญญาว่า
“พระองค์จะทำลายความตายให้สาบสูญไปตลอดกาล
พระยะโฮวา...จะเช็ดน้ำตาให้ทุกคน”
พระเยซูก็สัญญาแบบนี้ด้วย
ท่านบอกว่า
“ไม่ต้องแปลกใจในเรื่องนี้ เพราะจะมีเวลาที่ทุกคน
ซึ่งอยู่ในอุโมงค์ฝังศพจะได้ยินเสียงท่านและจะออกมา”
เรามีวารสารฉบับพิเศษชื่อ
รับมือกับความโศกเศร้าเมื่อสูญเสียคนที่รัก
คุณดาวน์โหลดได้ฟรีจากเว็บไซต์ jw.org
เราเสียใจกับคุณด้วยที่สูญเสียคนที่คุณรัก
และหวังว่าวีดีโอนี้จะช่วยให้คุณมีกำลังใจ
วีดีโอนี้มีแล้วในเว็บไซต์ jw.org
และแอป JW Library
คุณจะหาได้ในส่วน ‘มีอะไรใหม่’
หรือเข้าไปที่ ‘วีดีโอ’
‘การประชุมและงานประกาศ’
‘เครื่องมือสำหรับงานประกาศ’
และถ้าคุณอยากหาวีดีโอนี้ได้ง่ายๆในแอป JW Library
ก็ให้คุณตั้งเป็น ‘ที่ชื่นชอบ’ ได้เลยนะครับ
นอกจากนี้ เรายังมีข่าวล่าสุดเกี่ยวกับงานบรรเทาทุกข์ในที่ต่างๆด้วย
อย่างที่เห็นในข่าวบนเว็บไซต์ของเรา
พายุเฮอร์ริเคนฟีโอน่าและเอียน
สร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับพี่น้องของเราในแคริบเบียน
รวมทั้งบางส่วนของแคนาดาและสหรัฐ
น่าเศร้า พี่น้องชายคนหนึ่งในคิวบาเสียชีวิต
ผลกระทบจากเฮอร์ริเคนทั้ง 2 ลูก
ทำให้บ้านพี่น้องของเรามากกว่า 3,600 หลัง
และหอประชุมราชอาณาจักรมากกว่า 100 หลังได้รับความเสียหาย
สาขาต่างๆทำงานอย่างหนักเพื่อให้การช่วยเหลือ
ทั้งด้านร่างกายและความเชื่อ
เราอธิษฐานอยู่เสมอเพื่อทุกคนที่ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ
และเพื่อพี่น้องที่กำลังให้การช่วยเหลือด้วย
อีกเรื่องที่คุณคงอยากรู้คือ
พี่น้องในยูเครนและรัสเซียเป็นยังไงกันบ้าง?
ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ พี่น้องของเรามากกว่า 26,000 คน
เลือกที่จะอพยพออกจากพื้นที่ที่มีสงครามในยูเครน
และเหตุการณ์ไม่นานมานี้
ทำให้คนรัสเซียจำนวนมากมายหนีออกจากประเทศ
รวมทั้งพี่น้องเราบางคนด้วย
ตอนแรก บางคนคิดว่าสงครามครั้งนี้
คงจะอยู่แค่ไม่กี่อาทิตย์ หรือไม่กี่เดือน
แต่ก็ไม่เป็นอย่างนั้น
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องหนีไปต่างประเทศเพราะสงคราม
ขอให้รู้ว่า
เราอยากช่วยคุณให้กลับมา
มีชีวิตปกติเหมือนที่เคยเป็นให้เร็วที่สุด
เราทำอะไรบ้างเพื่อช่วยคุณครับ?
ให้เราดูรายงานต่อไปนี้จากสำนักงานสาขายุโรปกลาง
ในเขตของสาขาเรา มีพี่น้องที่อพยพมามากกว่า 8,500 คน
ในเดือนมีนาคม คณะกรรมการผู้ประสานงานขอให้เรา
ตั้งทีมช่วยเหลือเพื่อทำงานกับคณะกรรมการบรรเทาทุกข์
ทีมช่วยเหลือเหล่านี้ทำงานกับผู้ดูแล
เพื่อช่วยพี่น้องที่อพยพมาให้ทำกิจกรรม
ของคริสเตียนต่อไปและได้รับการช่วยเหลืออื่นๆ
พี่น้องบางคนก็ดูแลตัวเองได้
หลังจากย้ายมาไม่นาน พวกเขาก็หาบ้านและหางานได้
พี่น้องบางคนก็ได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาล
เราสังเกตว่า ยิ่งเราช่วยเหลือพี่น้องได้เร็วเท่าไหร่
ให้พวกเขามีบ้าน มีงานทำ และกลับมาทำกิจกรรมกับประชาคม
เขาก็จะรู้สึกว่าชีวิตกลับมาเป็นปกติแล้ว
นี่ส่งผลดีทั้งในด้านความเชื่อ สุขภาพร่างกาย และจิตใจด้วย
พระยะโฮวาอวยพรความพยายามของเราจริงๆ
ไม่นานมานี้ พี่น้องหญิงพาพี่น้องที่อพยพมา
ครอบครัวหนึ่งไปดูอพาร์ตเมนต์
มีพี่น้องท้องถิ่นกับคนที่ช่วยแปลไปกับพวกเขาด้วย
นายหน้าอพาร์ตเมนต์ประทับใจมาก
เขาบอกว่า พวกคุณช่วยเหลือและดูแลกันดีมากๆ
ผมชื่นชมศาสนาของพวกคุณจริงๆ
หลังจากดูห้องเสร็จ พี่น้องจากยูเครน
ก็ถามนายหน้าว่า พวกเขาจะได้ห้องไหม
นายหน้าดูปฏิทินแล้วบอกว่า
มีลูกค้าอีก 10 คน อยากได้ห้องนี้เหมือนกัน
แต่เขาหยุดคิดแป๊บนึง ยิ้ม แล้วบอกว่า
พวกคุณช่วยเหลือกันดีจริงๆ
ผมอยากสนับสนุนคนดีๆแบบนี้
เอาอย่างนี้แล้วกัน พวกคุณเอาห้องนี้ไปเลย
หลังจากนั้น เขาก็ถามหลายอย่างเกี่ยวกับ
พยานพระยะโฮวาและงานของเรา
แล้วก็บอกพี่น้องว่า ถ้ามีอะไรให้เขาช่วยก็ติดต่อมาได้
เขายังบอกด้วยว่า ถ้ามีอพาร์ตเมนต์ห้องไหนว่างอีก
เขาจะติดต่อเราเป็นรายแรกเลย
เราจะได้มาดูห้องก่อน
นายหน้าคนนี้ยังช่วยพี่น้องจากยูเครน
กรอกเอกสารขอความช่วยเหลือจากรัฐบาล
เพื่อจะได้อยู่ฟรีโดยไม่ต้องเสียค่าเช่าด้วย
เป็นพรจากพระยะโฮวาจริงๆ
เราได้กำลังใจใช่ไหมครับ
ที่เห็นพี่น้องมากมายกำลังทำงานหนัก
เพื่อช่วยพี่น้องที่อพยพมาให้กลับมามีชีวิตที่ปกติอีกครั้ง
และเราภูมิใจมากที่พี่น้องที่อพยพมาพร้อมที่จะปรับเปลี่ยน
และไม่ได้คาดหมายแบบที่เกินความเป็นจริง
นอกจากนี้ เรากำลังช่วยหลายสาขาทั่วโลกโดยเฉพาะในยุโรป
ให้เตรียมพร้อมเพื่อรับมือกับปัญหาเรื่องการขาดแคลนพลังงาน
นี่รวมถึงการจัดหาและติดตั้งแผงโซล่าร์เซลล์
เครื่องปั่นไฟ และแบตเตอรี่สำรอง
อุปกรณ์เหล่านี้จะช่วยสาขาต่างๆให้ทำงานที่สำคัญได้ต่อไป
ซึ่งก็คือการเตรียมอาหารที่เสริมความเชื่อ
และให้การชี้นำกับประชาคม
แต่ตอนนี้ ให้เรามาคุยกันเกี่ยวกับหัวเรื่องที่ว่า
“เมื่อคุณเห็นอันตราย ให้ลงมือทำทันที”
คุณคงเห็นด้วยว่า โลกนี้กำลังเปลี่ยนไปเหมือนละครเปลี่ยนฉาก
ความสงบสุขและมั่นคงที่เคยมีในหลายส่วนของโลก
ดูเหมือนว่ากำลังหายไปอย่างรวดเร็ว
เราเห็นภัยธรรมชาติเกิดขึ้นมากมาย
ความรุนแรง อาชญากรรม สงคราม
การขาดแคลนอาหาร ขาดแคลนพลังงาน และอื่นๆ
คำถามก็คือ แล้วตัวเราควรทำยังไง ถ้าเราต้องเจออันตรายแบบนั้น
ให้เราดูคำตอบจากหนังสือสุภาษิตบท 22
และเราจะอ่านด้วยกันในข้อ 3 ครับ
“คนฉลาดมองเห็นอันตรายแล้วหนีไปซ่อนตัว
แต่คนที่ขาดประสบการณ์เดินต่อไปและได้รับผลเสียหาย”
ใช่ครับ เมื่อเรามองเห็นอันตราย เราต้อง “หนีไปซ่อนตัว”
แต่เราต้องทำทันทีด้วย
เรื่องนี้เป็นจริงเหมือนกับในสมัยคัมภีร์ไบเบิล
ขอเราลองดูบางตัวอย่างด้วยกัน
ตอนที่ดาวิดถูกซาอูลและคนอื่นๆขู่จะฆ่า
เขารีบลุกขึ้น
และหนีไป
และในศตวรรษแรก ทูตสวรรค์ของพระยะโฮวา
ก็บอกโยเซฟให้พาทารกเยซูและมารีย์
หนีไปที่ประเทศอียิปต์ และอยู่ที่นั่น
เพราะเฮโรด
กำลังจะมาฆ่าเด็กคนนี้
โยเซฟกับมารีย์ก็เลยรีบหนีในคืนนั้นเลย
ต่อมาพระเยซูบอกให้คนที่เป็นคริสเตียนหนีไป
เมื่อพวกเขาเห็นกองทัพมาล้อมกรุงเยรูซาเล็ม
ให้เราอ่านด้วยกันที่ลูกาบท 21
เราจะอ่านข้อ 20 และ 21
“เมื่อคุณเห็นกองทัพมาตั้งค่ายล้อมกรุงเยรูซาเล็ม
ก็ให้รู้ว่ากรุงนี้ใกล้จะถูกทำลายให้ร้างเปล่าแล้ว
ให้คนที่อยู่ในแคว้นยูเดียเริ่มหนีไปที่ภูเขา
ให้คนที่อยู่ในกรุงออกไป
และคนที่อยู่นอกกรุงอย่าเข้ามา”
จุดสำคัญคืออะไร?
เมื่อเราเห็นอันตราย เราไม่ต้องกลัวเกินไป
แต่เราต้องลงมือทำทันที
นี่หมายความว่า เราอาจต้องหนีจากที่ที่เราอยู่
และทิ้งข้าวของบางอย่าง หรือแม้แต่ทิ้งทุกอย่างเลยด้วยซ้ำ
ตอนนี้พี่น้องของเราหลายคนในยูเครนและรัสเซียต้องตัดสินใจว่า
‘ฉันควรหนีไปอยู่ที่อื่นไหม?’
การตัดสินใจเรื่องนี้อาจยากมาก
ถ้ารัฐบาลไม่ได้สั่งให้หนี
คุณต้องตัดสินใจเองครับ
เราคงไม่คิดว่าพระเยซูหรือทูตสวรรค์จะมาบอกเราให้หนี
แต่พระยะโฮวาอยากให้เราใช้ความสามารถในการคิดหาเหตุผล
พระองค์อยากให้เราตัดสินใจอย่างฉลาด
ให้เรามาดูว่าครอบครัวหนึ่งในยูเครนทำยังไง
เมื่อพวกเขาเห็นว่ากำลังตกอยู่ในอันตราย
ที่จริงเราได้รับคำเตือนหลายอย่างก่อนจะเกิดสงครามซะอีก
ตอนนมัสการครอบครัว เราอ่านบทความหนึ่งจากตื่นเถิด!
ในนั้นมีคำแนะนำเกี่ยวกับกระเป๋าฉุกเฉิน
และแผนรับมือเมื่อเกิดภัยพิบัติ
เราตัดสินใจว่า เมื่อเกิดสงครามและมีการทิ้งระเบิด
พวกเราจะหนี
ทุกคนในครอบครัวเรามีกระเป๋าฉุกเฉิน
เราวางไว้ใกล้ๆประตูตั้งแต่ตอนที่ยังไม่มีสงคราม
ฉันบอกลูกๆว่า นอกจากกระเป๋าฉุกเฉิน
ให้เอาไปแต่ของที่จำเป็นเท่านั้น
ลูกๆเลยไปหยิบเสื้อผ้ากันมาคนละชุด
แค่นั้นจริงๆ
แล้วเราก็เติมน้ำมันรถไว้เต็มถัง
ก่อนสงคราม เราไม่เคยเติมน้ำมันเต็มถังเลย
เราไม่อยากให้มีสงคราม แต่คิดว่าเติมเต็มถังไว้ก่อนก็ดี
เราเตรียมพร้อมแต่ไม่รู้ว่าถ้าต้องหนีจริงๆจะปลอดภัยไหม
ผู้ดูแลโทรมา บอกให้เราตัดสินใจดีๆ
แล้วก็มีระเบิดจริงๆ
ประตูหน้าต่างสั่นไปหมด
ผมคิดว่า ไม่ได้ละ เราต้องหนีแล้วล่ะถึงจะปลอดภัย
แล้วเราทุกคน
ผม ภรรยา กับลูก 5 คน
ก็หยิบกระเป๋าและไปที่รถ
หลังจากนั้นไม่กี่นาที เราก็ขับรถออกไป
ตลอดทางเราเห็นปั้มทุกปั้มมีคนต่อคิวรอเติมน้ำมันเยอะมาก
เรามีน้ำมันเต็มถังแล้ว ไปเติมอีกทีที่ชายแดนได้เลย
เราอยู่ที่ชายแดนตั้ง 21 ชั่วโมง
ที่เราต้องรอถึง 21 ชั่วโมงเพราะรถติดมาก
ทุกครั้งเราได้เห็นว่า คำแนะนำของพระยะโฮวาดีที่สุดจริงๆ
ถึงจะไม่เข้าใจเหตุผล แต่ถ้าเราเชื่อฟังและทำตาม
เห็นได้เลยว่า พระยะโฮวาจะอวยพรเราแน่นอน
การเตรียมตัวล่วงหน้าช่วยให้พวกเขาตัดสินใจหนีได้ทันที
เมื่อเห็นว่ากำลังตกอยู่ในอันตราย
ทั้งครอบครัวทำตามคำแนะนำที่ให้เตรียมกระเป๋าฉุกเฉินไว้ล่วงหน้า
และเติมน้ำมันในรถให้เต็มถัง
พี่น้องที่รักครับ
เนื่องจากโลกทุกวันนี้มีแต่ความไม่แน่นอน
เราเลยต้องเตรียมพร้อมทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และความเชื่อ
เพื่อรับมือกับภัยพิบัติ
และสถานการณ์ต่างๆที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
วันนี้ มันเกิดขึ้นแล้วกับพี่น้องของเรา
แต่พรุ่งนี้ มันอาจจะเกิดขึ้นกับเราก็ได้
เรามั่นใจได้ว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
เราจะไม่ทิ้งกัน และเราจะช่วยกันให้ผ่านปัญหาทุกอย่างไปได้
นี่เป็นเวลาที่เราต้องอยู่เคียงข้างกัน
และที่จริง งานบรรเทาทุกข์ก็เป็นส่วนสำคัญของงานรับใช้ที่ศักดิ์สิทธิ์
ขอเปิดดูด้วยกันที่กิจการบท 11
และเราจะอ่านในข้อ 28 และ 29 ครับ
“คนหนึ่งในพวกนั้นชื่ออากาบุส
พลังของพระเจ้าดลใจให้เขาพยากรณ์ว่า
จะเกิดการขาดแคลนอาหารทั่วโลก
ซึ่งก็เกิดขึ้นจริงในช่วงที่คลาวดิอัสปกครอง
พวกสาวกจึงตกลงกันว่า
จะส่งความช่วยเหลือไปให้พี่น้องที่อยู่ในแคว้นยูเดีย
ตามที่แต่ละคนจะให้ได้”
ข้อมูลสำหรับศึกษาในข้อ 29 ช่วยให้เราเข้าใจว่า
นี่เป็นครั้งแรกที่บันทึกว่า
คริสเตียน​ส่ง​ความ​ช่วยเหลือ​ไป​ให้​
เพื่อน​ร่วม​ความ​เชื่อ​ที่​อยู่​ใน​ส่วน​อื่น​ของ​โลก
ข้อมูลนั้นอธิบายต่อว่า
คำ​กรีก เดียคอเนีย ที่​มัก​แปล​ว่า “งาน​รับใช้”
ยัง​ใช้​ใน​ความ​หมาย​แง่​อื่น​ได้​ด้วย
เช่น​ที่ กิจการ 12:25 แปล​ว่า “ทำ​งาน​ช่วยเหลือ​พี่​น้อง”
และ 2 โครินธ์ 8:4 แปล​ว่า “ช่วยเหลือ​บรรเทา​ทุกข์”
การ​ใช้​คำ​กรีก เดียคอเนีย ใน​พระ​คัมภีร์​คริสเตียน​ภาค​ภาษา​กรีก
​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​คริสเตียน​มี​งาน​รับใช้ 2 ด้าน
ด้าน​หนึ่ง​คือ...งาน​ประกาศ​และ​งาน​สอน
ส่วน​อีก​ด้าน​หนึ่ง​เกี่ยว​ข้อง​กับ​การ​ช่วย
​เพื่อน​ร่วม​ความ​เชื่อ​เหมือน​ที่​บอก​ใน​ข้อ​นี้
เปาโล...แสดง​ให้​เห็น​ว่า​การ​รับใช้​ของ​คริสเตียน​
ทั้ง 2 แบบ​นี้​รวม​กัน​เป็น “การ​รับใช้​ที่​ศักดิ์สิทธิ์”
ดังนั้นเราเห็นว่า งานบรรเทาทุกข์เป็นงานรับใช้ที่ศักดิ์สิทธิ์
นี่เป็นส่วนสำคัญของงานรับใช้ที่เราทำ
เราพูดขอบคุณหลายครั้ง
เพราะเราอยากให้คุณรู้ว่า เรารู้สึกเห็นค่าและขอบคุณมากแค่ไหน
ที่คุณสนับสนุนงานบรรเทาทุกข์อย่างใจกว้าง
คุณช่วยเรื่องอาหาร ซ่อมแซมบ้านและหอประชุม
เมื่อมีพี่น้องอพยพมา คุณก็ไปรอต้อนรับเขา
ที่ชายแดน และให้เขามาพักที่บ้าน
คุณช่วยให้พี่น้องกลับมาใช้ชีวิตปกติได้อีกครั้ง
และช่วยให้พวกเขามีสิ่งจำเป็น
ทั้งหมดนี้จำเป็นมาก
และเป็นสิ่งที่มีค่ามาก
ขอบคุณครับ สำหรับทุกอย่าง
และขอให้รู้ว่า พวกเรารักคุณทุกคนมากจริงๆครับ
และนี่คือรายการโทรทัศน์ JW
จากสำนักงานใหญ่ของพยานพระยะโฮวา