รายงานจากคณะกรรมการปกครองปี 2023 ตอน 8
Video
Other languages
Share text
Share link
Show times
Hide times
00:00:01
ยินดีต้อนรับพี่น้องทุกคน00:00:04
00:00:04
เข้าสู่รายงานของเดือนนี้ครับ00:00:06
00:00:08
เราจะเริ่มด้วยรายงานสั้นๆ00:00:11
00:00:11
เกี่ยวกับภัยพิบัติต่างๆ00:00:13
00:00:13
ที่ส่งผลกระทบต่อพี่น้องของเรา
เมื่อเร็วๆนี้ครับ00:00:18
00:00:19
ในเดือนกันยายน00:00:21
00:00:21
พี่น้องของเราในประเทศกรีซ00:00:23
00:00:23
ต้องเจอกับฝนตกหนัก
และน้ำท่วมอย่างรุนแรง00:00:28
00:00:28
ในเดือนตุลาคม00:00:29
00:00:29
พี่น้องของเราในเม็กซิโก00:00:32
00:00:32
ต้องเจอเฮอริเคนที่มีความรุนแรงระดับ 500:00:35
00:00:35
ซึ่งสร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง00:00:38
00:00:39
และในเดือนพฤศจิกายน00:00:41
00:00:41
พี่น้องที่รักของเราในฟิลิปปินส์00:00:44
00:00:44
ต้องเจอแผ่นดินไหวขนาด 6.700:00:48
00:00:48
น่าเศร้า00:00:50
00:00:50
แผ่นดินไหวครั้งนั้น00:00:52
00:00:52
ทําให้พี่น้องหญิงหนึ่งคนเสียชีวิต00:00:55
00:00:55
และมีพี่น้องอีก 10 คนได้รับบาดเจ็บ00:00:59
00:01:00
เราตั้งใจจะอธิษฐานเพื่อพี่น้อง00:01:04
00:01:04
ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติที่เกิดขึ้นทั่วโลก00:01:09
00:01:09
เราอยากขอบคุณทุกคน00:01:12
00:01:12
ที่อธิษฐาน00:01:13
00:01:13
และช่วยพี่น้อง00:01:15
00:01:15
พวกคุณบางคนทํางานหนัก
เพื่อช่วยในงานบรรเทาทุกข์00:01:20
00:01:20
และพวกคุณหลายคนได้บริจาคอย่างใจกว้าง00:01:24
00:01:24
นี่ทําให้เราสามารถจัดเตรียมสิ่งจําเป็นให้พี่น้องได้00:01:30
00:01:30
รวมถึงสร้างบ้านใหม่ให้พวกเขา
และหอประชุมด้วย00:01:35
00:01:35
เราขอบคุณจริงๆสําหรับน้ำใจของคุณ00:01:39
00:01:39
คณะกรรมการปกครองอยากบอกว่า00:01:42
00:01:42
ขอบคุณมากครับ00:01:44
00:01:46
ในส่วนต่อไปของรายงาน00:01:48
00:01:48
เราจะคุยกันเรื่อง00:01:51
00:01:51
ทําให้เห็นว่าเราเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้า00:01:56
00:01:56
หัวเรื่องนี้มาจาก 2 โครินธ์ 6:400:02:00
00:02:00
เป็นตอนที่เปาโลบอกว่า00:02:02
00:02:02
“เราพยายามทําทุกอย่างเพื่อให้เห็นว่า00:02:06
00:02:06
เราเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้า”00:02:09
00:02:10
นี่หมายความว่ายังไง?00:02:12
00:02:13
ข้อมูลศึกษาของข้อนี้บอกว่า00:02:15
00:02:15
คํากริยาภาษากรีกในวลีที่บอกว่า
“เราทําให้เห็น”00:02:20
00:02:20
ถ่ายทอดความหมายว่า00:02:22
00:02:22
เราแสดงหรือพิสูจน์ตัวเองให้คนอื่นเห็น00:02:27
00:02:28
แต่เราจะแสดงหรือพิสูจน์ยังไง00:02:31
00:02:31
ว่าเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้าเที่ยงแท้?00:02:34
00:02:34
อย่างหนึ่งก็คือ00:02:37
00:02:37
การแต่งตัวของเรา00:02:40
00:02:40
เราอยากให้ทุกคนที่เห็นเรา
ชื่นชมพระเจ้าที่เรารักและนมัสการ00:02:47
00:02:47
เราทําอย่างนั้นได้00:02:49
00:02:49
โดยทําตามหลักการในคัมภีร์ไบเบิล เช่น00:02:53
00:02:53
ให้เรามาดูหลักการข้อหนึ่ง00:02:55
00:02:55
ใน 1 ทิโมธี 2:9, 10 00:03:01
00:03:02
“ส่วนผู้หญิง00:03:03
00:03:03
ก็ควรแต่งตัวให้เหมาะสม00:03:07
00:03:07
เป็นแบบสุภาพเรียบร้อย00:03:10
00:03:10
และแบบคนที่มีสติดี00:03:13
00:03:14
ไม่ใช่ทําผมแบบสวยหรู00:03:16
00:03:16
ประดับประดาตัวด้วยทองคํา00:03:18
00:03:18
ไข่มุก หรือเสื้อผ้าราคาแพงๆ00:03:21
00:03:21
แต่ให้แต่งตัวให้เหมาะกับผู้หญิง
ที่บอกว่าตัวเองนับถือพระเจ้า00:03:27
00:03:27
โดยเอาความดีเป็นเครื่องประดับ”00:03:31
00:03:34
ถึงแม้ข้อคัมภีร์นี้
จะพูดถึงผู้หญิงที่เป็นคริสเตียน00:03:39
00:03:39
แต่หลักการนี้
ก็ใช้ได้กับทั้งผู้ชายและผู้หญิงด้วย00:03:45
00:03:45
ดังนั้น00:03:46
00:03:46
วิธีหนึ่งที่เราทุกคนจะทําให้เห็นว่า00:03:51
00:03:51
เราเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้าก็คือ00:03:55
00:03:55
การแต่งตัวของเราต้องเรียบร้อย00:03:59
00:03:59
เหมาะสม00:04:00
00:04:00
และแสดงถึงความมีสติดี00:04:04
00:04:05
แต่นี่หมายความว่า00:04:06
00:04:06
พยานพระยะโฮวาทุกคน
ต้องทําแบบเดียวกันไหม?00:04:11
00:04:11
เราทุกคนต้องใส่เครื่องแบบ00:04:15
00:04:15
หรือทุกคนต้องแต่งตัว
ใส่เสื้อผ้าให้เหมือนๆกันไหม?00:04:21
00:04:21
แน่นอนว่าไม่00:04:23
00:04:23
เรามีพยานพระยะโฮวา
มากกว่า 8 ล้านคนอยู่ทั่วโลก00:04:28
00:04:28
และเรามีวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน00:04:32
00:04:33
พระยะโฮวาชักนําหลายล้านคนเข้ามา00:04:37
00:04:37
เพราะพระองค์00:04:39
00:04:39
ชอบความหลากหลาย00:04:42
00:04:42
ตอนนี้เราอาจสงสัยว่า00:04:45
00:04:45
แล้วการไว้เคราล่ะ00:04:47
00:04:47
เหมาะสมไหม?00:04:49
00:04:49
พี่น้องชายจะไว้เคราได้ไหม?00:04:53
00:04:54
เพื่อตอบคําถามนี้00:04:56
00:04:56
ให้เรามาดูวีดีโอด้วยกัน00:04:59
00:04:59
วีดีโอนี้พูดถึงความเป็นมาของการไว้เครา00:05:04
00:05:04
ในกลุ่มประชาชนของพระยะโฮวา00:05:07
00:05:10
ตั้งแต่สมัยผู้ซื่อสัตย์ในอดีต00:05:13
00:05:13
ผู้ชายจะไว้เคราตามธรรมเนียม00:05:16
00:05:16
และธรรมเนียมนี้ก็มีมาจนถึงสมัยชาติอิสราเอล00:05:19
00:05:19
การไม่มีเคราจึงเป็นเรื่องน่าอาย00:05:22
00:05:22
หรือเป็นสัญลักษณ์ถึงความโศกเศร้า00:05:25
00:05:25
เช่น00:05:26
00:05:26
เมื่อกษัตริย์ของอัมโมนโกนเคราคนของดาวิด
เพื่อทําให้อับอาย00:05:31
00:05:31
ดาวิดได้ปกป้องศักดิ์ศรีของพวกเขาโดยบอกว่า00:05:35
00:05:35
“อยู่ที่เมืองเยรีโคไปก่อน00:05:37
00:05:37
จนกว่าเคราจะขึ้น
แล้วค่อยกลับมา”00:05:40
00:05:40
หลายร้อยปีต่อมา
ผู้พยากรณ์เอเสเคียลโกนเคราและผมของตัวเอง00:05:45
00:05:45
เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่า00:05:47
00:05:47
เยรูซาเล็มจะพบกับความทุกข์ครั้งใหญ่00:05:50
00:05:51
แล้วพระเยซูล่ะ00:05:53
00:05:53
ท่านเป็นคนอิสราเอล
ท่านไว้เคราไหม?00:05:56
00:05:57
มีอยู่ช่วงหนึ่ง
ที่ภาพของพระเยซูในหนังสือของเราไม่มีเครา00:06:01
00:06:01
เพราะเรายึดตามความเห็น
ของนักโบราณคดีบางคน00:06:04
00:06:05
แต่พอถึงปี 1968
วารสารหอสังเกตการณ์ได้พูดถึงข้อคัมภีร์00:06:11
00:06:11
รวมถึงหลักฐานทางประวัติศาสตร์
ที่เชื่อถือได้มากกว่า00:06:15
00:06:15
และในหนังสือข่าวดีทั้ง 4 เล่ม00:06:17
00:06:17
ไม่มีที่ไหนเลย
ที่บอกว่าพระเยซูดูแตกต่างจากคนอื่น00:06:22
00:06:22
ท่านทําตามธรรมเนียมของผู้ชายชาวยิวในตอนนั้น00:06:26
00:06:26
ท่านไว้เครา00:06:27
00:06:28
ตั้งแต่นั้นมาหนังสือและวีดีโอของเรา00:06:31
00:06:31
จึงมีภาพพระเยซูไว้เคราที่เรียบร้อย00:06:35
00:06:38
ในสมัยที่มีการตั้งประชาคมคริสเตียน00:06:41
00:06:41
ชาวโรมันนิยมโกนเครา00:06:44
00:06:44
แต่คริสเตียนชาวยิวในตอนนั้น
ต้องโกนเคราด้วยไหม?00:06:48
00:06:48
หรือคนต่างชาติที่เข้ามาเป็นคริสเตียน00:06:50
00:06:50
ต้องไว้เคราเพื่อจะเหมือนกับคริสเตียนชาวยิวไหม?00:06:54
00:06:54
ดูเหมือนว่าไม่00:06:56
00:06:56
เพราะไม่มีข้อคัมภีร์หรือคําสั่งไหนที่บอกว่า00:06:59
00:06:59
ผู้นมัสการแท้ต้องไว้เคราหรือต้องโกนเครา00:07:03
00:07:03
นี่เป็นการตัดสินใจส่วนตัว00:07:06
00:07:07
ช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ถึงต้นศตวรรษที่ 2000:07:10
00:07:10
นักศึกษาคัมภีร์ไบเบิลก็มีเครา00:07:13
00:07:13
เหมือนที่เห็นในรูปถ่ายของพิลกริม
ซึ่งเป็นผู้ดูแลเดินทาง00:07:18
00:07:19
พี่น้องรัสเซลล์ก็ไว้เคราด้วย00:07:21
00:07:21
บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งเรียกเขาว่า00:07:24
00:07:24
นักเทศน์ที่ดูภูมิฐาน00:07:27
00:07:27
เขาบอกด้วยว่า00:07:28
00:07:28
รัสเซลล์ไม่ต่างจากนักเทศน์คนอื่นเลย00:07:31
00:07:31
เครายาวสีขาวที่ดูนุ่ม00:07:34
00:07:34
ทําให้เขาดูเหมือนคนที่เป็นพ่อ00:07:37
00:07:37
ซึ่งทําให้ดูน่าเชื่อถือ00:07:39
00:07:40
พอหลังสงครามโลกครั้งที่ 100:07:42
00:07:42
คนก็ไม่นิยมไว้เครา00:07:45
00:07:45
นี่เป็นรูปถ่ายของพิลกริมในปี 191900:07:49
00:07:49
ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ไว้เครา00:07:51
00:07:51
แม้ในตอนนั้นหนังสือของเรา
จะไม่ค่อยพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้00:07:55
00:07:55
แต่ก็มีพี่น้องน้อยมากที่ไว้เครา00:07:58
00:07:59
และพอถึงปี 196000:08:01
00:08:01
ในหลายประเทศคนที่ไว้เคราส่วนใหญ่
จะเป็นพวกที่ต่อต้านรัฐบาล00:08:07
00:08:07
ผู้ชายส่วนมากทั้งที่เป็นพยานฯ
และไม่ใช่พยานฯเลยไม่ไว้เครา00:08:13
00:08:13
เนื่องจากการไว้เครา
ทําให้คนอื่นมองเราในแง่ลบ00:08:17
00:08:17
พี่น้องชายส่วนใหญ่ที่ไว้เครา
เลยไม่ได้เป็นผู้ช่วยงานรับใช้00:08:21
00:08:21
ผู้ดูแล
หรือไม่ได้รับการแต่งตั้งให้ทําหน้าที่อื่นๆ00:08:25
00:08:26
พอเวลาผ่านไป00:08:27
00:08:27
ในบางประเทศ
การไว้เครากลายเป็นเรื่องธรรมดา00:08:31
00:08:31
และไม่เกี่ยวกับพวกหัวรุนแรง00:08:33
00:08:33
ในประเทศเหล่านั้น
พี่น้องชายบางคนที่ไว้เครา00:08:36
00:08:36
ก็เป็นผู้ช่วยงานรับใช้และผู้ดูแลได้00:08:40
00:08:40
และไม่กี่ปีมานี้
ก็มีอีกหลายประเทศที่คนไว้เครากัน00:08:45
00:08:45
แล้วตอนนี้ล่ะ00:08:47
00:08:47
เราควรมองพี่น้องที่ไว้เครายังไง?00:08:50
00:08:54
คําถามสุดท้ายในวีดีโอน่าสนใจใช่ไหมครับ00:08:59
00:09:00
ตอนนี้เราควรมองพี่น้อง00:09:02
00:09:02
ที่เขาตัดสินใจไว้เครายังไงครับ?00:09:06
00:09:06
คณะกรรมการปกครองขอให้ผม00:09:09
00:09:09
อ่านคําประกาศนี้ครับ00:09:12
00:09:13
มีสํานักงานสาขาบางแห่งจากทั่วโลก00:09:18
00:09:18
เขียนถึงเราว่า00:09:20
00:09:20
มีพี่น้องหลายคนที่สงสัยว่า00:09:23
00:09:23
เหมาะสมไหมที่ผู้ช่วยงานรับใช้
หรือคนที่เป็นผู้ดูแลจะไว้เครา?00:09:31
00:09:31
หลังจากที่ได้อธิษฐานเกี่ยวกับเรื่องนี้00:09:34
00:09:34
คณะกรรมการปกครองสรุปว่า00:09:37
00:09:37
ต้องมีการอธิบายเรื่องนี้ให้ชัดเจน00:09:41
00:09:42
คณะกรรมการปกครองไม่ติดขัดอะไรเลย00:09:46
00:09:46
ถ้าพี่น้องชายจะไว้เครา00:09:48
00:09:48
เพราะอะไร?00:09:50
00:09:50
เพราะไม่มีข้อคัมภีร์ไหนเลย
ที่บอกว่าการไว้เคราเป็นเรื่องที่ผิด00:09:56
00:09:56
นอกจากนั้น00:09:58
00:09:58
พอเวลาผ่านไปเราก็สังเกตว่า00:10:01
00:10:01
ในหลายประเทศ00:10:03
00:10:03
ผู้ชายที่ไว้เครา00:10:05
00:10:05
ก็ได้รับการยอมรับจากสังคม00:10:08
00:10:08
บางคนก็เป็นนักธุรกิจ00:10:10
00:10:10
หรือเจ้าหน้าที่00:10:13
00:10:13
ดังนั้นถ้าพี่น้องชายจะไว้เครา00:10:17
00:10:17
นั่นก็เป็นการตัดสินใจส่วนตัว00:10:21
00:10:21
คุณสมบัติของพี่น้องชาย
ที่จะเป็นผู้ดูแลหรือผู้ช่วยงานรับใช้00:10:27
00:10:27
ต้องเป็นไปตามหลักพระคัมภีร์00:10:31
00:10:31
ไม่ได้เกี่ยวกับว่าเขาจะไว้เคราหรือไม่00:10:35
00:10:35
คําแนะนํานี้ยังใช้ได้กับ
ผู้รับใช้เต็มเวลาประเภทพิเศษที่เบเธล00:10:42
00:10:42
พี่น้องที่รับใช้ในเขตงาน00:10:44
00:10:44
รวมถึงไพโอเนียร์พิเศษ มิชชันนารี00:10:47
00:10:47
และผู้ดูแลหมวด00:10:50
00:10:50
และตามที่บอกในโรม 14:400:10:54
00:10:54
ทั้งผู้ดูแลและพี่น้องคนอื่นๆ00:10:58
00:10:58
ไม่ควรตัดสินพี่น้องชาย00:11:01
00:11:01
ที่เขาเลือกจะไว้เครา00:11:05
00:11:05
เรามั่นใจว่าคําแนะนํานี้จะช่วยให้เราระวัง00:11:10
00:11:10
อะไรก็ตามที่ทําให้เกิดความแตกแยก00:11:15
00:11:15
ในกลุ่มพยานพระยะโฮวา00:11:18
00:11:18
จบคําประกาศจากคณะกรรมการปกครอง00:11:22
00:11:23
แต่การชี้นํานี้00:11:26
00:11:26
อาจทําให้เกิดคําถามบางอย่าง00:11:29
00:11:29
เช่นคําถามที่ว่า00:11:32
00:11:32
ทําไมคณะกรรมการปกครอง
ถึงชี้นําแบบนี้ในตอนนี้?00:11:37
00:11:38
ที่ 1 โครินธ์ 7:3100:11:41
00:11:41
เปาโลได้รับการดลใจให้เขียนว่า00:11:44
00:11:45
“โลกนี้กําลังเปลี่ยนไป00:11:47
00:11:47
เหมือนละครเปลี่ยนฉาก”00:11:50
00:11:50
ข้อมูลศึกษาบอกว่า00:11:52
00:11:52
เปาโลอาจกําลังเปรียบเทียบสิ่งที่เกิดขึ้นในโลก00:11:56
00:11:56
ว่าเป็นฉากที่เปลี่ยนเร็วมากในโรงละคร00:12:01
00:12:01
ที่นักแสดงต้องรีบเดินขึ้น00:12:05
00:12:05
และลงเวทีให้ทัน00:12:07
00:12:08
เมื่อคิดถึงสิ่งที่เปาโลได้รับการดลใจให้เขียน00:12:13
00:12:13
เราเห็นว่า00:12:15
00:12:15
การแต่งตัวได้เปลี่ยนไปแล้ว00:12:17
00:12:17
เราเห็นว่าผู้ชายหลายคนที่มีตําแหน่งหน้าที่00:12:22
00:12:22
และได้รับความนับถือจากผู้คนในสังคม00:12:26
00:12:26
ก็ไว้เครากันมากขึ้น00:12:28
00:12:30
อีกคําถามหนึ่งครับ00:12:32
00:12:32
เราควรมองพี่น้องชายที่ตัดสินใจไว้เครายังไง?00:12:39
00:12:39
เราควรทําตามคําแนะนําของพระเยซู00:12:42
00:12:42
ที่อยู่ในยอห์น 7:2400:12:45
00:12:45
พระเยซูบอกว่า00:12:47
00:12:47
ให้ “เลิกตัดสินตามที่เห็นภายนอก”00:12:51
00:12:51
อย่างที่เห็นในวีดีโอ00:12:53
00:12:53
พอเวลาเปลี่ยน
การแต่งตัวก็เปลี่ยนไปด้วย00:12:57
00:12:57
และใช่ว่ามันจะไม่ดีทั้งหมด00:13:01
00:13:01
เพื่อเป็นตัวอย่าง00:13:03
00:13:03
คงไม่มีใครอยากจะแต่งตัว
เหมือนคนในสมัยคัมภีร์ไบเบิล00:13:08
00:13:08
หรือแต่งตัวเหมือนกับคนในสมัยร้อยปีที่แล้ว
ใช่ไหมครับ?00:13:13
00:13:15
ที่จริง00:13:16
00:13:16
พวกเราทุกคนคงอยากแต่งตัว
ให้เข้ากับยุคสมัยของเรา00:13:22
00:13:22
ไม่ใช่แต่งตัวย้อนยุคเกินไป00:13:25
00:13:26
จริงๆแล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร00:13:29
00:13:29
ที่เราจะแต่งตัวเหมือนกับคนทั่วๆไปในสังคม00:13:35
00:13:35
ถ้าการแต่งตัวแบบนั้น00:13:39
00:13:39
ไม่ขัดกับหลักการในคัมภีร์ไบเบิล00:13:43
00:13:43
เราต้องแน่ใจว่าการแต่งตัวของเรา00:13:48
00:13:48
เป็นแบบที่เหมาะสม00:13:50
00:13:50
สะอาด00:13:52
00:13:52
และแสดงว่าเรามีสติดี00:13:56
00:13:56
อีกคําถามหนึ่งครับ00:13:58
00:13:58
แล้วเราจะส่งเสริมความเป็นหนึ่งเดียวกัน
ในเรื่องนี้ได้ยังไงครับ?00:14:04
00:14:05
หลังจากดูรายงานนี้แล้ว00:14:08
00:14:08
เรื่องนี้อาจทําให้เกิดความรู้สึก00:14:11
00:14:11
ที่ต่างกันออกไป00:14:13
00:14:14
เช่น00:14:15
00:14:15
บางคนอาจรู้สึกเหมือนกับว่า00:14:19
00:14:19
ตัวเขาเป็นฝ่ายถูกเลยบอกว่า00:14:22
00:14:22
“เห็นไหม00:14:23
00:14:23
ผมบอกไว้ตั้งนานแล้วก็ไม่เชื่อ00:14:27
00:14:27
ผมเป็นฝ่ายถูก00:14:29
00:14:29
มาตลอด00:14:31
00:14:31
ไม่เชื่อกันเลย”00:14:34
00:14:34
ส่วนคนอื่นๆ00:14:36
00:14:36
อาจผิดหวัง00:14:38
00:14:38
และบอกว่า00:14:40
00:14:40
“ฉันอุตส่าห์เชื่อฟังการชี้นํา
เรื่องการแต่งตัวมาตลอด00:14:45
00:14:45
แล้วทําไมตอนนี้เป็นแบบนี้”00:14:49
00:14:50
ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกแบบไหน00:14:53
00:14:53
ก็ไม่ดีทั้งนั้น00:14:55
00:14:55
ให้เรามาดูสิ่งที่เปาโลได้รับการดลใจให้เขียน00:14:59
00:14:59
ที่ 1 โครินธ์ 1:10 ครับ00:15:05
00:15:06
“พี่น้องครับ00:15:08
00:15:08
ในนามพระเยซูคริสต์ผู้เป็นนายของเรา00:15:12
00:15:13
ผมขอเตือนพวกคุณทุกคน00:15:16
00:15:17
ให้พูดไปในแนวเดียวกัน00:15:20
00:15:21
และอย่าแตกแยกกัน00:15:24
00:15:24
แต่ให้มีความคิด00:15:26
00:15:26
และเป้าหมายเดียวกันเสมอ”00:15:29
00:15:32
เราจะเอาหลักการนี้มาใช้ยังไงครับ?00:15:36
00:15:36
ก็ถ้าเราพยายามบอกคนอื่นว่า00:15:41
00:15:41
สิ่งที่เราคิดเป็นเรื่องถูกต้อง00:15:44
00:15:44
และไม่ได้สนับสนุนคนอื่น
ให้ทําตามคําแนะนําขององค์การ00:15:49
00:15:49
นี่ส่งเสริมความเป็นหนึ่งเดียวกันไหม?00:15:52
00:15:52
เรากําลังช่วยให้พี่น้อง00:15:54
00:15:54
มีความคิดและเป้าหมายเดียวกันเสมอไหม?00:15:59
00:15:59
ไม่ครับ00:16:01
00:16:02
คนที่ทําแบบนั้นเขาต้องปรับเปลี่ยนความคิด
และมุมมองของตัวเอง00:16:09
00:16:09
ตรงกันข้าม00:16:11
00:16:11
ถ้าเราทําตามการชี้นําขององค์การ
อย่างซื่อสัตย์มาตลอดหลายปี00:16:17
00:16:17
มีเหตุผลอะไรจากพระคัมภีร์ไหม
ที่ทําให้คุณต้องเสียใจ?00:16:23
00:16:23
ไม่ครับ00:16:25
00:16:25
พระยะโฮวาเห็นค่าความซื่อสัตย์ของเรา00:16:29
00:16:29
และพระองค์ยังเห็นค่าที่เราถ่อมตัว
เต็มใจเชื่อฟังพระองค์00:16:35
00:16:35
และทําตามการชี้นําที่ได้รับจากองค์การ00:16:41
00:16:41
ในสมัยศตวรรษแรก00:16:44
00:16:44
คริสเตียนบางคนปล่อยให้เรื่อง00:16:47
00:16:47
การเข้าสุนัตมาทําให้เกิดความแตกแยก00:16:52
00:16:52
แต่พลังบริสุทธิ์ชี้นําคณะกรรมการปกครอง00:16:57
00:16:57
ให้จัดการเรื่องนี้เพื่อทําให้เกิดความเป็นหนึ่งเดียว00:17:01
00:17:01
ในทุกวันนี้คณะกรรมการปกครอง
ก็ส่งเสริมความเป็นหนึ่งเดียวกัน00:17:08
00:17:08
เราไม่อยากให้เรื่อง00:17:10
00:17:10
การไว้เครา00:17:13
00:17:13
มาทําให้พวกเรา00:17:15
00:17:15
ต้องแตกแยกกัน00:17:17
00:17:17
เราทุกคนต้องจําไว้ว่า00:17:19
00:17:19
องค์การของพระยะโฮวา
ส่วนที่อยู่บนแผ่นดินโลก00:17:23
00:17:23
พยายามจะก้าวให้ทัน00:17:26
00:17:26
กับองค์การของพระยะโฮวา
ส่วนที่อยู่ในสวรรค์00:17:31
00:17:31
จําได้ไหมว่าราชรถในนิมิตของเอเสเคียล
เคลื่อนที่เร็วขนาดไหน?00:17:37
00:17:37
เร็วมากเหมือนฟ้าแลบ00:17:40
00:17:41
ใครก็ตามที่พยายามแซงราชรถนี้00:17:46
00:17:46
หรือพยายามเปลี่ยนบางอย่างก่อนเวลา00:17:50
00:17:50
หรือคนที่ชักช้า00:17:53
00:17:53
ไม่ยอมทําตามการเปลี่ยนแปลง
ที่มาจากทาสที่ซื่อสัตย์และสุขุม00:17:59
00:17:59
ก็ไม่ได้ก้าวให้ทันตามองค์การของพระยะโฮวา00:18:04
00:18:06
ก่อนจะจบรายงาน00:18:08
00:18:08
เรารู้สึกขอบคุณ00:18:10
00:18:10
ที่ได้รับการชี้นําเรื่องการไว้เคราใช่ไหมครับ00:18:14
00:18:15
พระยะโฮวาให้เกียรติเรา00:18:18
00:18:18
พระองค์ให้เราแต่ละคนตัดสินใจเองว่า00:18:23
00:18:23
จะไว้เคราหรือไม่00:18:25
00:18:26
เรามั่นใจว่า00:18:28
00:18:28
พวกคุณทุกคนจะก้าวให้ทัน00:18:32
00:18:32
พร้อมปรับเปลี่ยนความคิดถ้าจําเป็น00:18:35
00:18:35
และรับใช้พระยะโฮวาอย่างซื่อสัตย์ต่อๆไป00:18:39
00:18:40
ส่งเสริมให้เกิดความรัก00:18:42
00:18:42
และความเป็นหนึ่งเดียวกันในหมู่พี่น้องของเรา00:18:47
00:18:48
และนี่คือรายการโทรทัศน์ JW00:18:52
00:18:52
จากสํานักงานใหญ่ของพยานพระยะโฮวา00:18:57
รายงานจากคณะกรรมการปกครองปี 2023 ตอน 8
-
รายงานจากคณะกรรมการปกครองปี 2023 ตอน 8
ยินดีต้อนรับพี่น้องทุกคน
เข้าสู่รายงานของเดือนนี้ครับ
เราจะเริ่มด้วยรายงานสั้นๆ
เกี่ยวกับภัยพิบัติต่างๆ
ที่ส่งผลกระทบต่อพี่น้องของเรา
เมื่อเร็วๆนี้ครับ
ในเดือนกันยายน
พี่น้องของเราในประเทศกรีซ
ต้องเจอกับฝนตกหนัก
และน้ำท่วมอย่างรุนแรง
ในเดือนตุลาคม
พี่น้องของเราในเม็กซิโก
ต้องเจอเฮอริเคนที่มีความรุนแรงระดับ 5
ซึ่งสร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง
และในเดือนพฤศจิกายน
พี่น้องที่รักของเราในฟิลิปปินส์
ต้องเจอแผ่นดินไหวขนาด 6.7
น่าเศร้า
แผ่นดินไหวครั้งนั้น
ทําให้พี่น้องหญิงหนึ่งคนเสียชีวิต
และมีพี่น้องอีก 10 คนได้รับบาดเจ็บ
เราตั้งใจจะอธิษฐานเพื่อพี่น้อง
ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติที่เกิดขึ้นทั่วโลก
เราอยากขอบคุณทุกคน
ที่อธิษฐาน
และช่วยพี่น้อง
พวกคุณบางคนทํางานหนัก
เพื่อช่วยในงานบรรเทาทุกข์
และพวกคุณหลายคนได้บริจาคอย่างใจกว้าง
นี่ทําให้เราสามารถจัดเตรียมสิ่งจําเป็นให้พี่น้องได้
รวมถึงสร้างบ้านใหม่ให้พวกเขา
และหอประชุมด้วย
เราขอบคุณจริงๆสําหรับน้ำใจของคุณ
คณะกรรมการปกครองอยากบอกว่า
ขอบคุณมากครับ
ในส่วนต่อไปของรายงาน
เราจะคุยกันเรื่อง
ทําให้เห็นว่าเราเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้า
หัวเรื่องนี้มาจาก 2 โครินธ์ 6:4
เป็นตอนที่เปาโลบอกว่า
“เราพยายามทําทุกอย่างเพื่อให้เห็นว่า
เราเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้า”
นี่หมายความว่ายังไง?
ข้อมูลศึกษาของข้อนี้บอกว่า
คํากริยาภาษากรีกในวลีที่บอกว่า
“เราทําให้เห็น”
ถ่ายทอดความหมายว่า
เราแสดงหรือพิสูจน์ตัวเองให้คนอื่นเห็น
แต่เราจะแสดงหรือพิสูจน์ยังไง
ว่าเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้าเที่ยงแท้?
อย่างหนึ่งก็คือ
การแต่งตัวของเรา
เราอยากให้ทุกคนที่เห็นเรา
ชื่นชมพระเจ้าที่เรารักและนมัสการ
เราทําอย่างนั้นได้
โดยทําตามหลักการในคัมภีร์ไบเบิล เช่น
ให้เรามาดูหลักการข้อหนึ่ง
ใน 1 ทิโมธี 2:9, 10
“ส่วนผู้หญิง
ก็ควรแต่งตัวให้เหมาะสม
เป็นแบบสุภาพเรียบร้อย
และแบบคนที่มีสติดี
ไม่ใช่ทําผมแบบสวยหรู
ประดับประดาตัวด้วยทองคํา
ไข่มุก หรือเสื้อผ้าราคาแพงๆ
แต่ให้แต่งตัวให้เหมาะกับผู้หญิง
ที่บอกว่าตัวเองนับถือพระเจ้า
โดยเอาความดีเป็นเครื่องประดับ”
ถึงแม้ข้อคัมภีร์นี้
จะพูดถึงผู้หญิงที่เป็นคริสเตียน
แต่หลักการนี้
ก็ใช้ได้กับทั้งผู้ชายและผู้หญิงด้วย
ดังนั้น
วิธีหนึ่งที่เราทุกคนจะทําให้เห็นว่า
เราเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้าก็คือ
การแต่งตัวของเราต้องเรียบร้อย
เหมาะสม
และแสดงถึงความมีสติดี
แต่นี่หมายความว่า
พยานพระยะโฮวาทุกคน
ต้องทําแบบเดียวกันไหม?
เราทุกคนต้องใส่เครื่องแบบ
หรือทุกคนต้องแต่งตัว
ใส่เสื้อผ้าให้เหมือนๆกันไหม?
แน่นอนว่าไม่
เรามีพยานพระยะโฮวา
มากกว่า 8 ล้านคนอยู่ทั่วโลก
และเรามีวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน
พระยะโฮวาชักนําหลายล้านคนเข้ามา
เพราะพระองค์
ชอบความหลากหลาย
ตอนนี้เราอาจสงสัยว่า
แล้วการไว้เคราล่ะ
เหมาะสมไหม?
พี่น้องชายจะไว้เคราได้ไหม?
เพื่อตอบคําถามนี้
ให้เรามาดูวีดีโอด้วยกัน
วีดีโอนี้พูดถึงความเป็นมาของการไว้เครา
ในกลุ่มประชาชนของพระยะโฮวา
ตั้งแต่สมัยผู้ซื่อสัตย์ในอดีต
ผู้ชายจะไว้เคราตามธรรมเนียม
และธรรมเนียมนี้ก็มีมาจนถึงสมัยชาติอิสราเอล
การไม่มีเคราจึงเป็นเรื่องน่าอาย
หรือเป็นสัญลักษณ์ถึงความโศกเศร้า
เช่น
เมื่อกษัตริย์ของอัมโมนโกนเคราคนของดาวิด
เพื่อทําให้อับอาย
ดาวิดได้ปกป้องศักดิ์ศรีของพวกเขาโดยบอกว่า
“อยู่ที่เมืองเยรีโคไปก่อน
จนกว่าเคราจะขึ้น
แล้วค่อยกลับมา”
หลายร้อยปีต่อมา
ผู้พยากรณ์เอเสเคียลโกนเคราและผมของตัวเอง
เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่า
เยรูซาเล็มจะพบกับความทุกข์ครั้งใหญ่
แล้วพระเยซูล่ะ
ท่านเป็นคนอิสราเอล
ท่านไว้เคราไหม?
มีอยู่ช่วงหนึ่ง
ที่ภาพของพระเยซูในหนังสือของเราไม่มีเครา
เพราะเรายึดตามความเห็น
ของนักโบราณคดีบางคน
แต่พอถึงปี 1968
วารสาร<i>หอสังเกตการณ์</i>ได้พูดถึงข้อคัมภีร์
รวมถึงหลักฐานทางประวัติศาสตร์
ที่เชื่อถือได้มากกว่า
และในหนังสือข่าวดีทั้ง 4 เล่ม
ไม่มีที่ไหนเลย
ที่บอกว่าพระเยซูดูแตกต่างจากคนอื่น
ท่านทําตามธรรมเนียมของผู้ชายชาวยิวในตอนนั้น
ท่านไว้เครา
ตั้งแต่นั้นมาหนังสือและวีดีโอของเรา
จึงมีภาพพระเยซูไว้เคราที่เรียบร้อย
ในสมัยที่มีการตั้งประชาคมคริสเตียน
ชาวโรมันนิยมโกนเครา
แต่คริสเตียนชาวยิวในตอนนั้น
ต้องโกนเคราด้วยไหม?
หรือคนต่างชาติที่เข้ามาเป็นคริสเตียน
ต้องไว้เคราเพื่อจะเหมือนกับคริสเตียนชาวยิวไหม?
ดูเหมือนว่าไม่
เพราะไม่มีข้อคัมภีร์หรือคําสั่งไหนที่บอกว่า
ผู้นมัสการแท้ต้องไว้เคราหรือต้องโกนเครา
นี่เป็นการตัดสินใจส่วนตัว
ช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ถึงต้นศตวรรษที่ 20
นักศึกษาคัมภีร์ไบเบิลก็มีเครา
เหมือนที่เห็นในรูปถ่ายของพิลกริม
ซึ่งเป็นผู้ดูแลเดินทาง
พี่น้องรัสเซลล์ก็ไว้เคราด้วย
บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งเรียกเขาว่า
นักเทศน์ที่ดูภูมิฐาน
เขาบอกด้วยว่า
รัสเซลล์ไม่ต่างจากนักเทศน์คนอื่นเลย
เครายาวสีขาวที่ดูนุ่ม
ทําให้เขาดูเหมือนคนที่เป็นพ่อ
ซึ่งทําให้ดูน่าเชื่อถือ
พอหลังสงครามโลกครั้งที่ 1
คนก็ไม่นิยมไว้เครา
นี่เป็นรูปถ่ายของพิลกริมในปี 1919
ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ไว้เครา
แม้ในตอนนั้นหนังสือของเรา
จะไม่ค่อยพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้
แต่ก็มีพี่น้องน้อยมากที่ไว้เครา
และพอถึงปี 1960
ในหลายประเทศคนที่ไว้เคราส่วนใหญ่
จะเป็นพวกที่ต่อต้านรัฐบาล
ผู้ชายส่วนมากทั้งที่เป็นพยานฯ
และไม่ใช่พยานฯเลยไม่ไว้เครา
เนื่องจากการไว้เครา
ทําให้คนอื่นมองเราในแง่ลบ
พี่น้องชายส่วนใหญ่ที่ไว้เครา
เลยไม่ได้เป็นผู้ช่วยงานรับใช้
ผู้ดูแล
หรือไม่ได้รับการแต่งตั้งให้ทําหน้าที่อื่นๆ
พอเวลาผ่านไป
ในบางประเทศ
การไว้เครากลายเป็นเรื่องธรรมดา
และไม่เกี่ยวกับพวกหัวรุนแรง
ในประเทศเหล่านั้น
พี่น้องชายบางคนที่ไว้เครา
ก็เป็นผู้ช่วยงานรับใช้และผู้ดูแลได้
และไม่กี่ปีมานี้
ก็มีอีกหลายประเทศที่คนไว้เครากัน
แล้วตอนนี้ล่ะ
เราควรมองพี่น้องที่ไว้เครายังไง?
คําถามสุดท้ายในวีดีโอน่าสนใจใช่ไหมครับ
ตอนนี้เราควรมองพี่น้อง
ที่เขาตัดสินใจไว้เครายังไงครับ?
คณะกรรมการปกครองขอให้ผม
อ่านคําประกาศนี้ครับ
มีสํานักงานสาขาบางแห่งจากทั่วโลก
เขียนถึงเราว่า
มีพี่น้องหลายคนที่สงสัยว่า
เหมาะสมไหมที่ผู้ช่วยงานรับใช้
หรือคนที่เป็นผู้ดูแลจะไว้เครา?
หลังจากที่ได้อธิษฐานเกี่ยวกับเรื่องนี้
คณะกรรมการปกครองสรุปว่า
ต้องมีการอธิบายเรื่องนี้ให้ชัดเจน
คณะกรรมการปกครองไม่ติดขัดอะไรเลย
ถ้าพี่น้องชายจะไว้เครา
เพราะอะไร?
เพราะไม่มีข้อคัมภีร์ไหนเลย
ที่บอกว่าการไว้เคราเป็นเรื่องที่ผิด
นอกจากนั้น
พอเวลาผ่านไปเราก็สังเกตว่า
ในหลายประเทศ
ผู้ชายที่ไว้เครา
ก็ได้รับการยอมรับจากสังคม
บางคนก็เป็นนักธุรกิจ
หรือเจ้าหน้าที่
ดังนั้นถ้าพี่น้องชายจะไว้เครา
นั่นก็เป็นการตัดสินใจส่วนตัว
คุณสมบัติของพี่น้องชาย
ที่จะเป็นผู้ดูแลหรือผู้ช่วยงานรับใช้
ต้องเป็นไปตามหลักพระคัมภีร์
ไม่ได้เกี่ยวกับว่าเขาจะไว้เคราหรือไม่
คําแนะนํานี้ยังใช้ได้กับ
ผู้รับใช้เต็มเวลาประเภทพิเศษที่เบเธล
พี่น้องที่รับใช้ในเขตงาน
รวมถึงไพโอเนียร์พิเศษ มิชชันนารี
และผู้ดูแลหมวด
และตามที่บอกในโรม 14:4
ทั้งผู้ดูแลและพี่น้องคนอื่นๆ
ไม่ควรตัดสินพี่น้องชาย
ที่เขาเลือกจะไว้เครา
เรามั่นใจว่าคําแนะนํานี้จะช่วยให้เราระวัง
อะไรก็ตามที่ทําให้เกิดความแตกแยก
ในกลุ่มพยานพระยะโฮวา
จบคําประกาศจากคณะกรรมการปกครอง
แต่การชี้นํานี้
อาจทําให้เกิดคําถามบางอย่าง
เช่นคําถามที่ว่า
ทําไมคณะกรรมการปกครอง
ถึงชี้นําแบบนี้ในตอนนี้?
ที่ 1 โครินธ์ 7:31
เปาโลได้รับการดลใจให้เขียนว่า
“โลกนี้กําลังเปลี่ยนไป
เหมือนละครเปลี่ยนฉาก”
ข้อมูลศึกษาบอกว่า
เปาโลอาจกําลังเปรียบเทียบสิ่งที่เกิดขึ้นในโลก
ว่าเป็นฉากที่เปลี่ยนเร็วมากในโรงละคร
ที่นักแสดงต้องรีบเดินขึ้น
และลงเวทีให้ทัน
เมื่อคิดถึงสิ่งที่เปาโลได้รับการดลใจให้เขียน
เราเห็นว่า
การแต่งตัวได้เปลี่ยนไปแล้ว
เราเห็นว่าผู้ชายหลายคนที่มีตําแหน่งหน้าที่
และได้รับความนับถือจากผู้คนในสังคม
ก็ไว้เครากันมากขึ้น
อีกคําถามหนึ่งครับ
เราควรมองพี่น้องชายที่ตัดสินใจไว้เครายังไง?
เราควรทําตามคําแนะนําของพระเยซู
ที่อยู่ในยอห์น 7:24
พระเยซูบอกว่า
ให้ “เลิกตัดสินตามที่เห็นภายนอก”
อย่างที่เห็นในวีดีโอ
พอเวลาเปลี่ยน
การแต่งตัวก็เปลี่ยนไปด้วย
และใช่ว่ามันจะไม่ดีทั้งหมด
เพื่อเป็นตัวอย่าง
คงไม่มีใครอยากจะแต่งตัว
เหมือนคนในสมัยคัมภีร์ไบเบิล
หรือแต่งตัวเหมือนกับคนในสมัยร้อยปีที่แล้ว
ใช่ไหมครับ?
ที่จริง
พวกเราทุกคนคงอยากแต่งตัว
ให้เข้ากับยุคสมัยของเรา
ไม่ใช่แต่งตัวย้อนยุคเกินไป
จริงๆแล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร
ที่เราจะแต่งตัวเหมือนกับคนทั่วๆไปในสังคม
ถ้าการแต่งตัวแบบนั้น
ไม่ขัดกับหลักการในคัมภีร์ไบเบิล
เราต้องแน่ใจว่าการแต่งตัวของเรา
เป็นแบบที่เหมาะสม
สะอาด
และแสดงว่าเรามีสติดี
อีกคําถามหนึ่งครับ
แล้วเราจะส่งเสริมความเป็นหนึ่งเดียวกัน
ในเรื่องนี้ได้ยังไงครับ?
หลังจากดูรายงานนี้แล้ว
เรื่องนี้อาจทําให้เกิดความรู้สึก
ที่ต่างกันออกไป
เช่น
บางคนอาจรู้สึกเหมือนกับว่า
ตัวเขาเป็นฝ่ายถูกเลยบอกว่า
“เห็นไหม
ผมบอกไว้ตั้งนานแล้วก็ไม่เชื่อ
ผมเป็นฝ่ายถูก
มาตลอด
ไม่เชื่อกันเลย”
ส่วนคนอื่นๆ
อาจผิดหวัง
และบอกว่า
“ฉันอุตส่าห์เชื่อฟังการชี้นํา
เรื่องการแต่งตัวมาตลอด
แล้วทําไมตอนนี้เป็นแบบนี้”
ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกแบบไหน
ก็ไม่ดีทั้งนั้น
ให้เรามาดูสิ่งที่เปาโลได้รับการดลใจให้เขียน
ที่ 1 โครินธ์ 1:10 ครับ
“พี่น้องครับ
ในนามพระเยซูคริสต์ผู้เป็นนายของเรา
ผมขอเตือนพวกคุณทุกคน
ให้พูดไปในแนวเดียวกัน
และอย่าแตกแยกกัน
แต่ให้มีความคิด
และเป้าหมายเดียวกันเสมอ”
เราจะเอาหลักการนี้มาใช้ยังไงครับ?
ก็ถ้าเราพยายามบอกคนอื่นว่า
สิ่งที่เราคิดเป็นเรื่องถูกต้อง
และไม่ได้สนับสนุนคนอื่น
ให้ทําตามคําแนะนําขององค์การ
นี่ส่งเสริมความเป็นหนึ่งเดียวกันไหม?
เรากําลังช่วยให้พี่น้อง
มีความคิดและเป้าหมายเดียวกันเสมอไหม?
ไม่ครับ
คนที่ทําแบบนั้นเขาต้องปรับเปลี่ยนความคิด
และมุมมองของตัวเอง
ตรงกันข้าม
ถ้าเราทําตามการชี้นําขององค์การ
อย่างซื่อสัตย์มาตลอดหลายปี
มีเหตุผลอะไรจากพระคัมภีร์ไหม
ที่ทําให้คุณต้องเสียใจ?
ไม่ครับ
พระยะโฮวาเห็นค่าความซื่อสัตย์ของเรา
และพระองค์ยังเห็นค่าที่เราถ่อมตัว
เต็มใจเชื่อฟังพระองค์
และทําตามการชี้นําที่ได้รับจากองค์การ
ในสมัยศตวรรษแรก
คริสเตียนบางคนปล่อยให้เรื่อง
การเข้าสุนัตมาทําให้เกิดความแตกแยก
แต่พลังบริสุทธิ์ชี้นําคณะกรรมการปกครอง
ให้จัดการเรื่องนี้เพื่อทําให้เกิดความเป็นหนึ่งเดียว
ในทุกวันนี้คณะกรรมการปกครอง
ก็ส่งเสริมความเป็นหนึ่งเดียวกัน
เราไม่อยากให้เรื่อง
การไว้เครา
มาทําให้พวกเรา
ต้องแตกแยกกัน
เราทุกคนต้องจําไว้ว่า
องค์การของพระยะโฮวา
ส่วนที่อยู่บนแผ่นดินโลก
พยายามจะก้าวให้ทัน
กับองค์การของพระยะโฮวา
ส่วนที่อยู่ในสวรรค์
จําได้ไหมว่าราชรถในนิมิตของเอเสเคียล
เคลื่อนที่เร็วขนาดไหน?
เร็วมากเหมือนฟ้าแลบ
ใครก็ตามที่พยายามแซงราชรถนี้
หรือพยายามเปลี่ยนบางอย่างก่อนเวลา
หรือคนที่ชักช้า
ไม่ยอมทําตามการเปลี่ยนแปลง
ที่มาจากทาสที่ซื่อสัตย์และสุขุม
ก็ไม่ได้ก้าวให้ทันตามองค์การของพระยะโฮวา
ก่อนจะจบรายงาน
เรารู้สึกขอบคุณ
ที่ได้รับการชี้นําเรื่องการไว้เคราใช่ไหมครับ
พระยะโฮวาให้เกียรติเรา
พระองค์ให้เราแต่ละคนตัดสินใจเองว่า
จะไว้เคราหรือไม่
เรามั่นใจว่า
พวกคุณทุกคนจะก้าวให้ทัน
พร้อมปรับเปลี่ยนความคิดถ้าจําเป็น
และรับใช้พระยะโฮวาอย่างซื่อสัตย์ต่อๆไป
ส่งเสริมให้เกิดความรัก
และความเป็นหนึ่งเดียวกันในหมู่พี่น้องของเรา
และนี่คือรายการโทรทัศน์ JW
จากสํานักงานใหญ่ของพยานพระยะโฮวา
-