ปีเตอร์ ไพรซ์: คุณพร้อมช่วยเอาน้ำให้ฝูงแกะไหม?—วันสำเร็จการศึกษาของนักเรียนกิเลียดรุ่น 158
Video
Other languages
Share text
Share link
Show times
Hide times
00:00:01
หลายเดือนที่ผ่านมา00:00:02
00:00:02
คุณได้รับการอบรม00:00:04
00:00:04
ที่ช่วยคุณให้ใกล้ชิดพระยะโฮวามากขึ้น 00:00:07
00:00:07
และเห็นค่าคุณลักษณะต่างๆของพระองค์ 00:00:11
00:00:11
การอบรมนี้ไม่ใช่แค่เสริมความเชื่อ
ของคุณเท่านั้น 00:00:15
00:00:15
แต่ยังช่วยคุณ00:00:17
00:00:17
ให้อยากรับใช้คนอื่นด้วยความรัก 00:00:20
00:00:20
และออกมาจากใจ00:00:22
00:00:23
ผมคิดถึงโมเสส00:00:25
00:00:25
ที่ได้รับการฝึกให้ทำแบบนี้ด้วย 00:00:27
00:00:28
ผมไม่ได้หมายถึงตอนที่
ชาติอิสราเอลข้ามทะเลแดง 00:00:32
00:00:32
หรือตอนที่โมเสสขึ้นไปรับกฎหมาย
ของพระเจ้าที่ภูเขาซีนาย 00:00:36
00:00:36
แต่ผมหมายถึง00:00:39
00:00:39
ตอนที่โมเสสอยู่ที่บ่อน้ำในแผ่นดินมีเดียน 00:00:44
00:00:44
แม้เขาจะสูญเสียทุกอย่าง 00:00:46
00:00:46
แต่ก็ตัดสินใจที่จะรับใช้คนอื่น00:00:50
00:00:50
ให้เราเปิดดูด้วยกันที่อพยพบท 2 00:00:53
00:00:53
และนึกภาพว่าเราอยู่ที่นั่นด้วย 00:00:55
00:00:55
อพยพบทที่ 2 ครับ 00:00:57
00:00:59
ตอนนั้นโมเสสเพิ่งเจอกับปัญหา 00:01:03
00:01:03
เขาปกป้องเพื่อนร่วมชาติชาวยิว 00:01:05
00:01:05
และฆ่าชาวอียิปต์คนหนึ่งตาย 00:01:08
00:01:09
เมื่อทำแบบนี้ 00:01:10
00:01:10
โมเสสแสดงให้เห็นว่าเขาไม่ใช่คนอียิปต์ 00:01:14
00:01:14
แต่เป็นคนของพระยะโฮวา00:01:16
00:01:17
วันต่อมา มีชาวอิสราเอล 2 คนตีกัน00:01:20
00:01:20
พอโมเสสเห็น เขาก็เข้าไปห้าม 00:01:24
00:01:24
หนึ่งในนั้นเลยพูดกับโมเสส00:01:26
00:01:26
เหมือนที่บอกไว้ในอพยพ 2:14 00:01:30
00:01:30
“คนนั้นตอบว่า 00:01:32
00:01:32
‘ใครตั้งคุณให้เป็นผู้นำ
และผู้พิพากษาตัดสินพวกเรา?00:01:36
00:01:36
คุณคิดจะฆ่าผมเหมือนที่ได้ฆ่า
ชาวอียิปต์คนนั้นหรือ?’”00:01:39
00:01:40
ชีวิตเขาเปลี่ยนไปเลย 00:01:42
00:01:42
ในข้อนั้นบอกต่อว่า “โมเสสก็กลัว” 00:01:45
00:01:45
เพราะเขาได้มารู้ว่าสิ่งที่เขาทำกับชาวอียิปต์00:01:49
00:01:49
ไม่ได้เป็นความลับอีกต่อไป 00:01:51
00:01:51
สถานการณ์กำลังจะแย่กว่านั้นอีก
ในข้อ 15 บอกว่า 00:01:55
00:01:56
“พอฟาโรห์ได้ยินเรื่องนี้ก็หาทางจะฆ่าโมเสส 00:02:00
00:02:01
โมเสสจึงหนีฟาโรห์ไปอาศัย
อยู่ในแผ่นดินมีเดียน 00:02:04
00:02:04
หลังจากไปถึงที่นั่น 00:02:05
00:02:05
เขานั่งลงที่ริมบ่อน้ำแห่งหนึ่ง 00:02:08
00:02:09
คิดดูสิ ฟาโรห์เคยเลี้ยงโมเสสในวัง 00:02:13
00:02:13
พอได้ยินว่าเขาฆ่าชาวอียิปต์00:02:15
00:02:15
แทนที่จะปกป้อง 00:02:17
00:02:17
กลับอยากจะฆ่าโมเสส 00:02:19
00:02:19
โมเสสเลยหนีไป 00:02:21
00:02:22
ลองนึกภาพดูนะครับ00:02:24
00:02:24
เขาคงเหนื่อยล้า 00:02:26
00:02:26
เพราะเดินทางหลายวันไปในที่แห้งแล้ง 00:02:31
00:02:31
ตัวเปื้อนมอมแมม 00:02:33
00:02:34
ไม่มีตำแหน่ง ไม่มีชื่อเสียง 00:02:38
00:02:38
เป็นแค่ผู้ชายธรรมดา 00:02:40
00:02:40
นั่งเครียดอยู่ที่บ่อน้ำ 00:02:42
00:02:42
เขาคงนึกถึงเหตุการณ์ที่ทำให้เขามาอยู่ที่นี่ 00:02:46
00:02:46
ตอนนั้นเขาคงต้องรู้สึกกังวลมากแน่ๆ00:02:51
00:02:51
แต่เขาอยู่คนเดียวได้ไม่นาน
ข้อ 16, 17 บอกว่า 00:02:55
00:02:56
“จากนั้น ลูกสาว 7 คนของปุโรหิตชาวมีเดียน00:03:00
00:03:00
ก็มาตักน้ำใส่รางให้ฝูงแกะของพ่อกิน 00:03:03
00:03:03
แต่พวกคนเลี้ยงแกะก็มาไล่พวกเธอตามเคย 00:03:08
00:03:08
โมเสสจึงเข้าไปช่วยพวกเธอ00:03:11
00:03:11
และเอาน้ำให้ฝูงแกะกิน”00:03:13
00:03:14
ข้อนี้บอกว่า “ตามเคย” 00:03:18
00:03:18
แสดงว่าเกิดขึ้นบ่อยๆ 00:03:20
00:03:20
พวกผู้หญิงคาดหมายอยู่แล้ว00:03:23
00:03:23
ว่าพวกคนเลี้ยงแกะจะมาไล่พวกเธอ 00:03:25
00:03:25
แต่ครั้งนี้โมเสสเห็นเหตุการณ์00:03:28
00:03:28
ก็เลยเข้าไปช่วย00:03:30
00:03:31
โมเสสไม่ได้คิดว่า00:03:33
00:03:33
นี่ไม่ใช่ปัญหาของผม 00:03:35
00:03:35
หรือนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้แล้วก็คิดว่า00:03:39
00:03:39
เอาอีกแล้วเหรอ 00:03:41
00:03:41
ครั้งนี้ผมจะไม่เข้าไปยุ่งดีกว่า 00:03:43
00:03:44
แต่เขาลุกขึ้นปกป้องพวกเธอ 00:03:47
00:03:47
และเอาน้ำให้แกะกิน 00:03:49
00:03:49
ในท้องเรื่องไม่ได้อธิบายว่าโมเสสแนะนำตัวเอง 00:03:53
00:03:53
หรืออธิบายว่าเขาเป็นใคร 00:03:55
00:03:55
เขาแค่เป็นคนแปลกหน้า
ที่เดินทางผ่านมาเท่านั้น00:03:58
00:03:58
สังเกตว่าพวกผู้หญิงพูดถึงโมเสสยังไง?
ในข้อ 18-20 00:04:03
00:04:04
“พอพวกเธอกลับบ้านไปหาเรอูเอล
พ่อของพวกเธอ 00:04:07
00:04:07
เขาก็ถามด้วยความแปลกใจว่า 00:04:09
00:04:09
‘ทำไมวันนี้กลับมากันเร็วจัง?’00:04:12
00:04:12
พวกเธอตอบว่า 00:04:13
00:04:13
‘มีชาวอียิปต์คนหนึ่งช่วยพวกเราไว้
จากพวกคนเลี้ยงแกะ 00:04:17
00:04:17
เขายังตักน้ำให้ฝูงแกะกินด้วย’ 00:04:20
00:04:21
เรอูเอลจึงพูดกับลูกสาวว่า 00:04:24
00:04:24
‘อ้าว แล้วตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน?00:04:26
00:04:26
ทำไมไม่พาเขามาด้วย?00:04:28
00:04:28
ไปเรียกเขามากินข้าวกับเราสิ’”00:04:31
00:04:31
พวกเธอไม่รู้จักชื่อของเขา 00:04:34
00:04:34
บอกแค่ว่าเป็น “ชาวอียิปต์คนหนึ่ง” 00:04:35
00:04:35
แต่อย่างที่เราอ่านในข้อ 21 00:04:38
00:04:38
การที่โมเสสแสดงความกรุณา00:04:41
00:04:41
ทำให้เขาได้ที่พัก 00:04:43
00:04:43
ได้ครอบครัว และชีวิตใหม่ 00:04:47
00:04:47
เห็นเลยว่าพระยะโฮวาไม่ได้ทิ้งโมเสส 00:04:50
00:04:50
พระองค์เห็นโมเสส เห็นว่าเขาสงสาร 00:04:54
00:04:54
และมีความเต็มใจที่จะช่วยเหลือคนอื่น00:04:57
00:04:57
แม้คนอื่นจะไม่เห็น 00:04:59
00:04:59
คุณลักษณะเหล่านี้แหละ00:05:00
00:05:00
ที่ทำให้โมเสสกลายเป็นผู้นำที่กล้าหาญ00:05:03
00:05:03
และชี้นำประชาชนของพระเจ้าอย่างภักดี00:05:06
00:05:07
คุณได้บทเรียนอะไรบ้าง00:05:09
00:05:09
ที่จะเอามาใช้ในงานมอบหมายของคุณครับ?00:05:12
00:05:12
ให้เราคุยกัน 3 อย่าง 00:05:14
00:05:15
อย่างแรก พยายามให้กำลังใจคนอื่นเสมอ00:05:20
00:05:20
โมเสสเห็นว่าคนอื่นต้องการ
ความช่วยเหลือและเขาก็ช่วย 00:05:24
00:05:24
คุณถูกฝึกให้มีความเข้าใจลึกซึ้ง 00:05:27
00:05:27
อย่างเช่น เพื่อนร่วมงานอาจดูเงียบๆหรือกังวล 00:05:32
00:05:32
บางคนอาจรู้สึกยากที่จะประกาศ 00:05:35
00:05:35
คุณได้เรียนหลายวิธีที่จะช่วยคนอื่นได้ 00:05:39
00:05:39
คุณถูกฝึกให้ใช้ข้อคัมภีร์ ฝึกให้ตั้งใจฟัง 00:05:43
00:05:43
หรือถูกสอนให้อธิษฐานเพื่อคนอื่น 00:05:46
00:05:47
นี่เป็นวิธีต่างๆที่เป็นเหมือนเอา
“น้ำให้ฝูงแกะกิน”00:05:52
00:05:52
อย่าลืมว่า 00:05:54
00:05:54
คุณไม่ใช่แค่กลับไปทำงานมอบหมาย 00:05:57
00:05:57
หรือกลับไปประเทศของคุณเท่านั้น 00:05:59
00:05:59
แต่คุณกลับไปหาพี่น้องที่เป็นเหมือนครอบครัว 00:06:02
00:06:02
และตัวอย่างของคุณจะช่วยพี่น้องได้00:06:05
00:06:06
บทเรียนที่ 2 ครับ 00:06:08
00:06:08
ให้ความถ่อมเป็นแรงกระตุ้นที่จะรับใช้คนอื่น 00:06:12
00:06:12
โมเสสไม่ใช่แค่ปกป้องพวกผู้หญิงเท่านั้น00:06:15
00:06:15
แต่เอาน้ำให้ฝูงแกะด้วย 00:06:17
00:06:17
เขาทำทุกอย่างที่ทำได้00:06:20
00:06:20
เพื่อรับใช้คนอื่นอย่างไม่เห็นแก่ตัว 00:06:22
00:06:22
นี่เลยทำให้พวกผู้หญิงไว้ใจเขา 00:06:25
00:06:25
พี่น้องหญิงหลายคนในชั้นเรียนนี้00:06:28
00:06:28
ก็ทำคล้ายๆกัน 00:06:30
00:06:31
พวกคุณ00:06:33
00:06:33
แสดงความกล้าหาญ
และถ่อมเหมือนโมเสสมาตลอด00:06:37
00:06:37
คุณบางคน00:06:39
00:06:39
เคยย้ายไปรับใช้ในที่ที่มีความจำเป็น 00:06:41
00:06:41
พยายามเรียนภาษาใหม่ที่ไม่ง่าย 00:06:44
00:06:44
หรือเป็นอาสาสมัครเดินทางไปกลับที่เบเธล 00:06:47
00:06:47
อาจจะรับใช้ 2-3 วันต่อสัปดาห์ 00:06:50
00:06:50
หรืออาจจะรับใช้ในสำนักงานแปลท้องถิ่น 00:06:53
00:06:54
และหลายครั้งคุณก็ต้อง
เสียสละมากที่จะทำงานนี้ 00:06:58
00:06:58
และทำโดยไม่หวังอะไรตอบแทน00:07:01
00:07:02
คุณไม่ได้รับใช้เพราะหวังว่าจะได้ตำแหน่ง 00:07:05
00:07:05
คำสรรเสริญ00:07:06
00:07:06
หรือหวังว่าจะได้สิทธิพิเศษไปกิเลียด 00:07:09
00:07:09
แต่คุณรับใช้เพราะรักพระยะโฮวา 00:07:12
00:07:12
และรักพี่น้องชายหญิงของคุณ00:07:15
00:07:15
แต่คนอื่นก็สังเกตการรับใช้
ด้วยความถ่อมของคุณ 00:07:19
00:07:19
ตัวอย่างของคุณ00:07:21
00:07:21
ให้กำลังใจพี่น้องให้รับใช้ด้วยความถ่อม00:07:25
00:07:25
เหมือนกับที่คุณทำ00:07:27
00:07:27
และพระยะโฮวาก็พอใจที่คุณรับใช้แบบนี้ 00:07:31
00:07:31
พี่น้องก็เห็นค่าด้วย 00:07:33
00:07:33
ดังนั้น ให้รับใช้คนอื่นด้วยความถ่อม 00:07:37
00:07:37
ความรักที่มั่นคง 00:07:39
00:07:39
และความเชื่อต่อไป00:07:41
00:07:41
อย่างที่ 3 ครับ 00:07:43
00:07:44
รับใช้คนอื่นแม้เราจะรู้สึกเหนื่อย 00:07:48
00:07:48
ตอนที่โมเสสช่วยคนอื่นที่บ่อน้ำ 00:07:51
00:07:51
เขาก็ไม่ได้มีสภาพที่สะดวกสบาย 00:07:54
00:07:54
เขากำลังหนี 00:07:56
00:07:56
ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน 00:07:58
00:07:59
ไม่มีใครคอยช่วย 00:08:01
00:08:01
และไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อไป 00:08:04
00:08:04
ทั้งๆที่อยู่ในสภาพที่ยากลำบาก 00:08:07
00:08:07
เขาก็ยังเลือกที่จะรับใช้คนอื่น00:08:09
00:08:09
เขาลุกขึ้นและเอาน้ำให้ฝูงแกะกิน00:08:12
00:08:13
นี่เป็นตัวอย่างที่ดีมาก 00:08:15
00:08:15
เพราะจะมีช่วงเวลาที่ไม่ง่ายสำหรับเรา
ที่จะรับใช้คนอื่น 00:08:20
00:08:20
หรือเอาน้ำให้แกะกิน 00:08:21
00:08:21
อาจเป็นช่วงที่เราปรับตัวกับวัฒนธรรมใหม่ 00:08:25
00:08:25
ภาษาใหม่ 00:08:26
00:08:27
หรือปรับตัวกับแผนกใหม่00:08:30
00:08:30
อาจจะเป็นตอนที่เรารับใช้พระเจ้าได้
ไม่มากเหมือนเมื่อก่อน 00:08:34
00:08:34
หรือรู้สึกว่าไม่มีใครเห็นค่าสิ่งที่เราทำ 00:08:37
00:08:37
อาจเป็นตอนที่เราถูกเข้าใจผิด 00:08:39
00:08:39
หรือได้รับคำแนะนำจากเพื่อน00:08:41
00:08:41
หรือคนที่อายุน้อยกว่า 00:08:43
00:08:43
ซึ่งต้องอาศัยความถ่อมมากๆ00:08:46
00:08:46
หรือตอนที่เราท้อใจคิดถึงครอบครัว 00:08:49
00:08:49
มีปัญหาสุขภาพ 00:08:51
00:08:51
สภาพการณ์เหล่านี้อาจ
ทำให้เราไม่อยากช่วยคนอื่น00:08:55
00:08:55
แต่ตัวอย่างของโมเสสเตือนเราว่า 00:08:59
00:08:59
ทั้งๆที่เราอ่อนแอ 00:09:01
00:09:01
เราก็สามารถช่วยเหลือคนอื่นได้ 00:09:04
00:09:04
รู้ไหมพระยะโฮวาไม่ได้คาดหมาย
ความสมบูรณ์แบบจากเรา 00:09:08
00:09:08
แต่พระองค์เห็นค่าที่เราเต็มใจรับใช้คนอื่น00:09:10
00:09:10
ทั้งๆที่เราอ่อนแอ 00:09:12
00:09:12
ดังนั้นตอนที่เรารู้สึกเหนื่อยกับงานมอบหมาย 00:09:16
00:09:16
ไม่ค่อยสะดวก 00:09:17
00:09:17
หรือไม่มีใครเห็นค่าสิ่งที่คุณทำ 00:09:19
00:09:19
ขอให้คิดถึง 2 โครินธ์ 12:10 00:09:23
00:09:23
“เพราะเมื่อไรที่ผมอ่อนแอ 00:09:26
00:09:26
ผมกลับยิ่งเข้มแข็งขึ้น”00:09:28
00:09:28
เหมือนโมเสสตอนที่อยู่ที่บ่อน้ำ 00:09:31
00:09:31
การถ่อมใจช่วยเหลือคนอื่นจะเกิดผลที่ดีมาก 00:09:36
00:09:36
เพราะพระยะโฮวาจะให้กำลังและช่วยเรา 00:09:39
00:09:40
ดังนั้น ตัวอย่างของโมเสสตอนที่อยู่ที่บ่อน้ำ00:09:45
00:09:45
จะช่วยคุณเมื่อไปยังงานมอบหมายใหม่ได้ยังไง?00:09:48
00:09:49
เขาไม่ได้เป็นผู้นำประเทศ 00:09:51
00:09:51
เขาไม่ได้ทำการอัศจรรย์อะไร 00:09:52
00:09:52
เขาเป็นผู้ชายธรรมดาที่กำลังลำบาก 00:09:55
00:09:55
แต่เลือกที่จะช่วยเหลือคนอื่น 00:09:57
00:09:57
นั่นเป็นการตัดสินใจที่ดีมาก00:09:59
00:09:59
ดังนั้นเมื่อคุณไปยังงานมอบหมายใหม่ 00:10:02
00:10:02
อย่าลืมให้กำลังใจคนอื่น 00:10:04
00:10:04
สิ่งที่คุณทำจะทำให้คนอื่นสดชื่น 00:10:06
00:10:06
ให้ถ่อมใจรับใช้คนอื่นแม้จะไม่มีใครเห็น 00:10:10
00:10:10
สิ่งที่คุณทำด้วยความรักจะเกิดผลดีแน่นอน 00:10:14
00:10:14
แม้คุณจะเหนื่อย 00:10:16
00:10:16
ขอคุณเต็มใจรับใช้คนอื่นเสมอ 00:10:18
00:10:18
เพราะสิ่งที่คุณทำจะมีความหมายมาก
กับพระยะโฮวาและพี่น้อง00:10:22
00:10:23
มีข้อคัมภีร์หนึ่งที่จะช่วยเราให้จำเรื่องนี้ไว้ 00:10:27
00:10:27
อยู่ที่กาลาเทีย 6:10 00:10:30
00:10:30
กาลาเทีย 6:10 00:10:33
00:10:34
ที่นั่นอ่านว่า 00:10:35
00:10:35
“ดังนั้น เมื่อมีโอกาส00:10:38
00:10:38
ก็ให้เราทำดีกับทุกคน 00:10:41
00:10:41
โดยเฉพาะกับพี่น้องร่วมความเชื่อของเรา” 00:10:46
00:10:47
คุณทำอย่างนั้นอยู่แล้ว 00:10:48
00:10:48
คุณหาโอกาสทำดีกับคนอื่น 00:10:51
00:10:51
คุณทำดีโดยเฉพาะกับพี่น้องร่วมความเชื่อ 00:10:56
00:10:56
ตอนนี้หลังจากที่คุณได้รับ
การฝึกอบรมที่ยอดเยี่ยม 00:10:59
00:10:59
คุณก็มีแรงกระตุ้นมากขึ้นที่จะทำดีต่อๆไป 00:11:03
00:11:04
และเมื่อมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น 00:11:07
00:11:07
อาจจะเป็นช่วงที่คุณไม่สะดวกด้วยซ้ำ 00:11:10
00:11:10
คุณจะพร้อมเอาน้ำให้ฝูงแกะกินไหม?00:11:14
00:11:14
คุณจะทำอย่างนั้นแน่ๆ
เพราะคุณไม่ได้อยู่คนเดียว 00:11:17
00:11:17
พระยะโฮวาเห็นค่าความพยายามของคุณ 00:11:20
00:11:20
พระองค์จะให้ความเข้มแข็ง00:11:22
00:11:22
ที่คุณจำเป็นต้องมีเพื่อรับใช้คนอื่นต่อไป00:11:27
ปีเตอร์ ไพรซ์: คุณพร้อมช่วยเอาน้ำให้ฝูงแกะไหม?—วันสำเร็จการศึกษาของนักเรียนกิเลียดรุ่น 158
-
ปีเตอร์ ไพรซ์: คุณพร้อมช่วยเอาน้ำให้ฝูงแกะไหม?—วันสำเร็จการศึกษาของนักเรียนกิเลียดรุ่น 158
หลายเดือนที่ผ่านมา
คุณได้รับการอบรม
ที่ช่วยคุณให้ใกล้ชิดพระยะโฮวามากขึ้น
และเห็นค่าคุณลักษณะต่างๆของพระองค์
การอบรมนี้ไม่ใช่แค่เสริมความเชื่อ
ของคุณเท่านั้น
แต่ยังช่วยคุณ
ให้อยากรับใช้คนอื่นด้วยความรัก
และออกมาจากใจ
ผมคิดถึงโมเสส
ที่ได้รับการฝึกให้ทำแบบนี้ด้วย
ผมไม่ได้หมายถึงตอนที่
ชาติอิสราเอลข้ามทะเลแดง
หรือตอนที่โมเสสขึ้นไปรับกฎหมาย
ของพระเจ้าที่ภูเขาซีนาย
แต่ผมหมายถึง
ตอนที่โมเสสอยู่ที่บ่อน้ำในแผ่นดินมีเดียน
แม้เขาจะสูญเสียทุกอย่าง
แต่ก็ตัดสินใจที่จะรับใช้คนอื่น
ให้เราเปิดดูด้วยกันที่อพยพบท 2
และนึกภาพว่าเราอยู่ที่นั่นด้วย
อพยพบทที่ 2 ครับ
ตอนนั้นโมเสสเพิ่งเจอกับปัญหา
เขาปกป้องเพื่อนร่วมชาติชาวยิว
และฆ่าชาวอียิปต์คนหนึ่งตาย
เมื่อทำแบบนี้
โมเสสแสดงให้เห็นว่าเขาไม่ใช่คนอียิปต์
แต่เป็นคนของพระยะโฮวา
วันต่อมา มีชาวอิสราเอล 2 คนตีกัน
พอโมเสสเห็น เขาก็เข้าไปห้าม
หนึ่งในนั้นเลยพูดกับโมเสส
เหมือนที่บอกไว้ในอพยพ 2:14
“คนนั้นตอบว่า
‘ใครตั้งคุณให้เป็นผู้นำ
และผู้พิพากษาตัดสินพวกเรา?
คุณคิดจะฆ่าผมเหมือนที่ได้ฆ่า
ชาวอียิปต์คนนั้นหรือ?’”
ชีวิตเขาเปลี่ยนไปเลย
ในข้อนั้นบอกต่อว่า “โมเสสก็กลัว”
เพราะเขาได้มารู้ว่าสิ่งที่เขาทำกับชาวอียิปต์
ไม่ได้เป็นความลับอีกต่อไป
สถานการณ์กำลังจะแย่กว่านั้นอีก
ในข้อ 15 บอกว่า
“พอฟาโรห์ได้ยินเรื่องนี้ก็หาทางจะฆ่าโมเสส
โมเสสจึงหนีฟาโรห์ไปอาศัย
อยู่ในแผ่นดินมีเดียน
หลังจากไปถึงที่นั่น
เขานั่งลงที่ริมบ่อน้ำแห่งหนึ่ง
คิดดูสิ ฟาโรห์เคยเลี้ยงโมเสสในวัง
พอได้ยินว่าเขาฆ่าชาวอียิปต์
แทนที่จะปกป้อง
กลับอยากจะฆ่าโมเสส
โมเสสเลยหนีไป
ลองนึกภาพดูนะครับ
เขาคงเหนื่อยล้า
เพราะเดินทางหลายวันไปในที่แห้งแล้ง
ตัวเปื้อนมอมแมม
ไม่มีตำแหน่ง ไม่มีชื่อเสียง
เป็นแค่ผู้ชายธรรมดา
นั่งเครียดอยู่ที่บ่อน้ำ
เขาคงนึกถึงเหตุการณ์ที่ทำให้เขามาอยู่ที่นี่
ตอนนั้นเขาคงต้องรู้สึกกังวลมากแน่ๆ
แต่เขาอยู่คนเดียวได้ไม่นาน
ข้อ 16, 17 บอกว่า
“จากนั้น ลูกสาว 7 คนของปุโรหิตชาวมีเดียน
ก็มาตักน้ำใส่รางให้ฝูงแกะของพ่อกิน
แต่พวกคนเลี้ยงแกะก็มาไล่พวกเธอตามเคย
โมเสสจึงเข้าไปช่วยพวกเธอ
และเอาน้ำให้ฝูงแกะกิน”
ข้อนี้บอกว่า “ตามเคย”
แสดงว่าเกิดขึ้นบ่อยๆ
พวกผู้หญิงคาดหมายอยู่แล้ว
ว่าพวกคนเลี้ยงแกะจะมาไล่พวกเธอ
แต่ครั้งนี้โมเสสเห็นเหตุการณ์
ก็เลยเข้าไปช่วย
โมเสสไม่ได้คิดว่า
นี่ไม่ใช่ปัญหาของผม
หรือนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้แล้วก็คิดว่า
เอาอีกแล้วเหรอ
ครั้งนี้ผมจะไม่เข้าไปยุ่งดีกว่า
แต่เขาลุกขึ้นปกป้องพวกเธอ
และเอาน้ำให้แกะกิน
ในท้องเรื่องไม่ได้อธิบายว่าโมเสสแนะนำตัวเอง
หรืออธิบายว่าเขาเป็นใคร
เขาแค่เป็นคนแปลกหน้า
ที่เดินทางผ่านมาเท่านั้น
สังเกตว่าพวกผู้หญิงพูดถึงโมเสสยังไง?
ในข้อ 18-20
“พอพวกเธอกลับบ้านไปหาเรอูเอล
พ่อของพวกเธอ
เขาก็ถามด้วยความแปลกใจว่า
‘ทำไมวันนี้กลับมากันเร็วจัง?’
พวกเธอตอบว่า
‘มีชาวอียิปต์คนหนึ่งช่วยพวกเราไว้
จากพวกคนเลี้ยงแกะ
เขายังตักน้ำให้ฝูงแกะกินด้วย’
เรอูเอลจึงพูดกับลูกสาวว่า
‘อ้าว แล้วตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน?
ทำไมไม่พาเขามาด้วย?
ไปเรียกเขามากินข้าวกับเราสิ’”
พวกเธอไม่รู้จักชื่อของเขา
บอกแค่ว่าเป็น “ชาวอียิปต์คนหนึ่ง”
แต่อย่างที่เราอ่านในข้อ 21
การที่โมเสสแสดงความกรุณา
ทำให้เขาได้ที่พัก
ได้ครอบครัว และชีวิตใหม่
เห็นเลยว่าพระยะโฮวาไม่ได้ทิ้งโมเสส
พระองค์เห็นโมเสส เห็นว่าเขาสงสาร
และมีความเต็มใจที่จะช่วยเหลือคนอื่น
แม้คนอื่นจะไม่เห็น
คุณลักษณะเหล่านี้แหละ
ที่ทำให้โมเสสกลายเป็นผู้นำที่กล้าหาญ
และชี้นำประชาชนของพระเจ้าอย่างภักดี
คุณได้บทเรียนอะไรบ้าง
ที่จะเอามาใช้ในงานมอบหมายของคุณครับ?
ให้เราคุยกัน 3 อย่าง
อย่างแรก พยายามให้กำลังใจคนอื่นเสมอ
โมเสสเห็นว่าคนอื่นต้องการ
ความช่วยเหลือและเขาก็ช่วย
คุณถูกฝึกให้มีความเข้าใจลึกซึ้ง
อย่างเช่น เพื่อนร่วมงานอาจดูเงียบๆหรือกังวล
บางคนอาจรู้สึกยากที่จะประกาศ
คุณได้เรียนหลายวิธีที่จะช่วยคนอื่นได้
คุณถูกฝึกให้ใช้ข้อคัมภีร์ ฝึกให้ตั้งใจฟัง
หรือถูกสอนให้อธิษฐานเพื่อคนอื่น
นี่เป็นวิธีต่างๆที่เป็นเหมือนเอา
“น้ำให้ฝูงแกะกิน”
อย่าลืมว่า
คุณไม่ใช่แค่กลับไปทำงานมอบหมาย
หรือกลับไปประเทศของคุณเท่านั้น
แต่คุณกลับไปหาพี่น้องที่เป็นเหมือนครอบครัว
และตัวอย่างของคุณจะช่วยพี่น้องได้
บทเรียนที่ 2 ครับ
ให้ความถ่อมเป็นแรงกระตุ้นที่จะรับใช้คนอื่น
โมเสสไม่ใช่แค่ปกป้องพวกผู้หญิงเท่านั้น
แต่เอาน้ำให้ฝูงแกะด้วย
เขาทำทุกอย่างที่ทำได้
เพื่อรับใช้คนอื่นอย่างไม่เห็นแก่ตัว
นี่เลยทำให้พวกผู้หญิงไว้ใจเขา
พี่น้องหญิงหลายคนในชั้นเรียนนี้
ก็ทำคล้ายๆกัน
พวกคุณ
แสดงความกล้าหาญ
และถ่อมเหมือนโมเสสมาตลอด
คุณบางคน
เคยย้ายไปรับใช้ในที่ที่มีความจำเป็น
พยายามเรียนภาษาใหม่ที่ไม่ง่าย
หรือเป็นอาสาสมัครเดินทางไปกลับที่เบเธล
อาจจะรับใช้ 2-3 วันต่อสัปดาห์
หรืออาจจะรับใช้ในสำนักงานแปลท้องถิ่น
และหลายครั้งคุณก็ต้อง
เสียสละมากที่จะทำงานนี้
และทำโดยไม่หวังอะไรตอบแทน
คุณไม่ได้รับใช้เพราะหวังว่าจะได้ตำแหน่ง
คำสรรเสริญ
หรือหวังว่าจะได้สิทธิพิเศษไปกิเลียด
แต่คุณรับใช้เพราะรักพระยะโฮวา
และรักพี่น้องชายหญิงของคุณ
แต่คนอื่นก็สังเกตการรับใช้
ด้วยความถ่อมของคุณ
ตัวอย่างของคุณ
ให้กำลังใจพี่น้องให้รับใช้ด้วยความถ่อม
เหมือนกับที่คุณทำ
และพระยะโฮวาก็พอใจที่คุณรับใช้แบบนี้
พี่น้องก็เห็นค่าด้วย
ดังนั้น ให้รับใช้คนอื่นด้วยความถ่อม
ความรักที่มั่นคง
และความเชื่อต่อไป
อย่างที่ 3 ครับ
รับใช้คนอื่นแม้เราจะรู้สึกเหนื่อย
ตอนที่โมเสสช่วยคนอื่นที่บ่อน้ำ
เขาก็ไม่ได้มีสภาพที่สะดวกสบาย
เขากำลังหนี
ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน
ไม่มีใครคอยช่วย
และไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อไป
ทั้งๆที่อยู่ในสภาพที่ยากลำบาก
เขาก็ยังเลือกที่จะรับใช้คนอื่น
เขาลุกขึ้นและเอาน้ำให้ฝูงแกะกิน
นี่เป็นตัวอย่างที่ดีมาก
เพราะจะมีช่วงเวลาที่ไม่ง่ายสำหรับเรา
ที่จะรับใช้คนอื่น
หรือเอาน้ำให้แกะกิน
อาจเป็นช่วงที่เราปรับตัวกับวัฒนธรรมใหม่
ภาษาใหม่
หรือปรับตัวกับแผนกใหม่
อาจจะเป็นตอนที่เรารับใช้พระเจ้าได้
ไม่มากเหมือนเมื่อก่อน
หรือรู้สึกว่าไม่มีใครเห็นค่าสิ่งที่เราทำ
อาจเป็นตอนที่เราถูกเข้าใจผิด
หรือได้รับคำแนะนำจากเพื่อน
หรือคนที่อายุน้อยกว่า
ซึ่งต้องอาศัยความถ่อมมากๆ
หรือตอนที่เราท้อใจคิดถึงครอบครัว
มีปัญหาสุขภาพ
สภาพการณ์เหล่านี้อาจ
ทำให้เราไม่อยากช่วยคนอื่น
แต่ตัวอย่างของโมเสสเตือนเราว่า
ทั้งๆที่เราอ่อนแอ
เราก็สามารถช่วยเหลือคนอื่นได้
รู้ไหมพระยะโฮวาไม่ได้คาดหมาย
ความสมบูรณ์แบบจากเรา
แต่พระองค์เห็นค่าที่เราเต็มใจรับใช้คนอื่น
ทั้งๆที่เราอ่อนแอ
ดังนั้นตอนที่เรารู้สึกเหนื่อยกับงานมอบหมาย
ไม่ค่อยสะดวก
หรือไม่มีใครเห็นค่าสิ่งที่คุณทำ
ขอให้คิดถึง 2 โครินธ์ 12:10
“เพราะเมื่อไรที่ผมอ่อนแอ
ผมกลับยิ่งเข้มแข็งขึ้น”
เหมือนโมเสสตอนที่อยู่ที่บ่อน้ำ
การถ่อมใจช่วยเหลือคนอื่นจะเกิดผลที่ดีมาก
เพราะพระยะโฮวาจะให้กำลังและช่วยเรา
ดังนั้น ตัวอย่างของโมเสสตอนที่อยู่ที่บ่อน้ำ
จะช่วยคุณเมื่อไปยังงานมอบหมายใหม่ได้ยังไง?
เขาไม่ได้เป็นผู้นำประเทศ
เขาไม่ได้ทำการอัศจรรย์อะไร
เขาเป็นผู้ชายธรรมดาที่กำลังลำบาก
แต่เลือกที่จะช่วยเหลือคนอื่น
นั่นเป็นการตัดสินใจที่ดีมาก
ดังนั้นเมื่อคุณไปยังงานมอบหมายใหม่
อย่าลืมให้กำลังใจคนอื่น
สิ่งที่คุณทำจะทำให้คนอื่นสดชื่น
ให้ถ่อมใจรับใช้คนอื่นแม้จะไม่มีใครเห็น
สิ่งที่คุณทำด้วยความรักจะเกิดผลดีแน่นอน
แม้คุณจะเหนื่อย
ขอคุณเต็มใจรับใช้คนอื่นเสมอ
เพราะสิ่งที่คุณทำจะมีความหมายมาก
กับพระยะโฮวาและพี่น้อง
มีข้อคัมภีร์หนึ่งที่จะช่วยเราให้จำเรื่องนี้ไว้
อยู่ที่กาลาเทีย 6:10
กาลาเทีย 6:10
ที่นั่นอ่านว่า
“ดังนั้น เมื่อมีโอกาส
ก็ให้เราทำดีกับทุกคน
โดยเฉพาะกับพี่น้องร่วมความเชื่อของเรา”
คุณทำอย่างนั้นอยู่แล้ว
คุณหาโอกาสทำดีกับคนอื่น
คุณทำดีโดยเฉพาะกับพี่น้องร่วมความเชื่อ
ตอนนี้หลังจากที่คุณได้รับ
การฝึกอบรมที่ยอดเยี่ยม
คุณก็มีแรงกระตุ้นมากขึ้นที่จะทำดีต่อๆไป
และเมื่อมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น
อาจจะเป็นช่วงที่คุณไม่สะดวกด้วยซ้ำ
คุณจะพร้อมเอาน้ำให้ฝูงแกะกินไหม?
คุณจะทำอย่างนั้นแน่ๆ
เพราะคุณไม่ได้อยู่คนเดียว
พระยะโฮวาเห็นค่าความพยายามของคุณ
พระองค์จะให้ความเข้มแข็ง
ที่คุณจำเป็นต้องมีเพื่อรับใช้คนอื่นต่อไป
-