มาร์ก นูแมร์—เราสามารถอดทนได้เหมือนโยบ (โรม 15:4)
Video
Other languages
Share text
Share link
Show times
Hide times
00:00:01
วันนี้เราจะมาดูบทเรียน
จากหนังสือโยบด้วยกันครับ 00:00:05
00:00:05
บทเรียนก็คือ 00:00:07
00:00:07
ถึงแม้ว่าพระเจ้าจะยอม00:00:11
00:00:11
ให้ซาตานเป็นผู้ปกครองโลก 00:00:14
00:00:14
หนังสือโยบก็ช่วยเราให้มั่นใจว่า00:00:17
00:00:17
พระยะโฮวาเป็นผู้มีอำนาจสูงสุด 00:00:20
00:00:20
และถ้าเรามั่นใจในอำนาจของพระองค์00:00:23
00:00:23
ก็จะช่วยให้เราอดทนได้00:00:25
00:00:25
ในหนังสือโยบมีการเรียก
พระยะโฮวาว่า “ผู้มีพลังอำนาจสูงสุด” 00:00:29
00:00:29
ถึง 32 ครั้ง 00:00:31
00:00:31
ซึ่งมากกว่าเล่มอื่นทั้งหมดในไบเบิลรวมกัน 00:00:34
00:00:34
ไบเบิลไม่ได้บอกแค่เรื่องราวของโยบเท่านั้น 00:00:38
00:00:38
แต่ยังบอกเรื่องราวที่อยู่เบื้องหลังด้วย 00:00:40
00:00:40
ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่
เกิดขึ้นในสวรรค์ที่โยบไม่รู้ 00:00:44
00:00:44
และยังสอนเราด้วยว่า
พระยะโฮวามีพลังอำนาจสูงสุด00:00:47
00:00:47
ให้เรามาดูด้วยกันครับ00:00:49
00:00:49
เปิดอ่านด้วยกันที่โยบ บทที่ 1 00:00:52
00:00:56
หนังสือโยบ บทที่ 1
เราจะเริ่มอ่านข้อที่ 6 00:01:00
00:01:02
“วันหนึ่ง ลูกๆ ของพระยะโฮวา
พระเจ้าเที่ยงแท้00:01:07
00:01:07
มาประชุมกันต่อหน้าพระองค์
ซาตานก็มาด้วย” 00:01:12
00:01:12
ซาตานไปที่นั่นได้ก็เพราะ
พระยะโฮวายอมให้มันเข้าไป 00:01:16
00:01:17
พระยะโฮวายอมให้ซาตานอยู่ที่นั่น
ก็เพื่อคำถามสำคัญจะได้รับคำตอบ00:01:22
00:01:23
อย่าลืมว่าพระยะโฮวาเป็นผู้มีอำนาจ
ปกครองสูงสุดในเอกภพ 00:01:27
00:01:27
พระองค์ไม่กลัวซาตาน00:01:29
00:01:29
พระยะโฮวาควบคุมทุกอย่างได้ 00:01:32
00:01:32
สั่งการได้ทุกอย่าง 00:01:34
00:01:34
และไม่มีอะไรจะมาทำให้
พระองค์สูญเสียอำนาจ 00:01:38
00:01:38
เราจะเห็นเรื่องนี้ได้ในข้อ 7 00:01:41
00:01:42
“พระยะโฮวาถามซาตานว่า ‘ไปไหนมา?’” 00:01:46
00:01:46
จากเหตุการณ์นี้ทำให้เราเห็นว่า 00:01:49
00:01:49
พระยะโฮวามีอำนาจเหนือซาตาน 00:01:52
00:01:52
เมื่อพระองค์ถาม ซาตานก็ต้องตอบ00:01:55
00:01:56
พระยะโฮวารู้อยู่แล้วว่าซาตานไปไหนมา 00:02:00
00:02:00
แต่การที่พระองค์ถามซาตานแบบนั้น 00:02:03
00:02:03
ก็เพื่อให้ทุกคนได้รู้
สิ่งที่พระยะโฮวารู้อยู่แล้ว 00:02:08
00:02:08
ซาตานตอบพระยะโฮวาว่า00:02:11
00:02:11
“ไปเดินเที่ยวในโลกมา”00:02:13
00:02:13
มันคงไม่ทำเรื่องดีแน่ๆ00:02:16
00:02:17
ตอนนี้ให้เราดูที่ข้อ 800:02:19
00:02:19
ว่าพระยะโฮวาจะทำอะไรต่อไป?00:02:21
00:02:21
พระองค์บีบให้ซาตาน
เปิดเผยเจตนาของมัน 00:02:25
00:02:25
ข้อ 8 00:02:26
00:02:27
“พระยะโฮวาพูดกับซาตานว่า 00:02:29
00:02:29
‘เคยสังเกตโยบผู้รับใช้ของเราไหม?’” 00:02:32
00:02:32
หรือพูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ00:02:34
00:02:34
“เคยสนใจดูโยบบ้างไหม?”00:02:37
00:02:37
พระองค์รู้ว่าซาตานต้องการอะไร
และบีบให้มันพูดออกมา 00:02:41
00:02:41
แต่ซาตานขี้ขลาด 00:02:43
00:02:43
มันไม่ยอมพูดถึงเรื่องของโยบ 00:02:45
00:02:45
จนพระยะโฮวาต้องพูดขึ้นมาก่อน 00:02:47
00:02:47
พระองค์รู้อยู่แล้วว่ามันอยากจะเล่นงานโยบ00:02:51
00:02:51
เราเห็นว่าพระยะโฮวารู้ว่า
ซาตานกำลังคิดอะไรอยู่ 00:02:55
00:02:55
เหมือนพระองค์พูดกับซาตานว่า 00:02:58
00:02:58
‘คิดอะไรอยู่ก็พูดออกมาเลย’ 00:03:01
00:03:01
แล้วในข้อ 10 ซาตานก็ตอบว่า00:03:05
00:03:05
‘พระองค์ปกป้องตัวเขา
เขาทำอะไรพระองค์ก็อวยพร’ 00:03:09
00:03:09
นี่ก็จริง และซาตานก็ทำอะไรไม่ได้ 00:03:11
00:03:11
เราเห็นว่าการที่ซาตานทำอะไรโยบไม่ได้ 00:03:15
00:03:15
แสดงว่าซาตานไม่มีอำนาจ
อะไรเลยเมื่อเทียบกับพระยะโฮวา00:03:19
00:03:19
พระยะโฮวามีสิทธิ์
ที่จะปกป้องคนของพระองค์ 00:03:23
00:03:23
และพระองค์ก็ใช้อำนาจ
ที่ยิ่งใหญ่เพื่อทำอย่างนั้น00:03:26
00:03:26
พระยะโฮวาทำยังไงตอนที่
อาดัมกบฏในสวนเอเดน?00:03:30
00:03:30
พระองค์จัดการทันทีเพื่อปกป้อง
สวนเอเดนและต้นไม้ที่ให้ชีวิต 00:03:34
00:03:34
โดยให้เครูบสององค์เฝ้าทางเข้าสวนไว้ 00:03:36
00:03:36
ซาตานก็ทำอะไรไม่ได้00:03:38
00:03:38
และในสมัยโนอาห์ 00:03:40
00:03:40
พระยะโฮวาก็ให้น้ำมาท่วม
ทำลายพวกเนฟิล 00:03:43
00:03:43
ซาตานไม่สามารถปกป้องไม่ให้
พระยะโฮวาทำลายพวกเนฟิลได้ 00:03:48
00:03:48
และนี่เน้นอีกครั้งถึงอำนาจ
ที่ยิ่งใหญ่ของพระยะโฮวา00:03:51
00:03:51
ตอนนี้ให้เราดูบท 1 ข้อ 11 00:03:54
00:03:54
ซาตานบอกพระยะโฮวาว่า 00:03:56
00:03:56
“ลองทำให้เขาสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างดูสิ” 00:04:00
00:04:00
ซาตานอยากให้พระยะโฮวา
เป็นฝ่ายโจมตีโยบไหม?00:04:04
00:04:04
ไม่ พระองค์ไม่ทำแน่ๆ 00:04:06
00:04:06
พระยะโฮวายังเป็นผู้ควบคุมสถานการณ์00:04:09
00:04:09
และไม่โต้เถียงกับซาตาน 00:04:11
00:04:11
พระองค์ไม่ยอมให้ซาตานบงการ 00:04:13
00:04:13
และไม่มีวันทำร้ายผู้รับใช้ของพระองค์ 00:04:16
00:04:17
แต่พระองค์ยอมให้ซาตาน
ทดสอบโยบอยู่ช่วงหนึ่ง 00:04:20
00:04:20
เราจะเห็นในข้อ 12 00:04:22
00:04:22
ขอสังเกตอีกครั้งว่า 00:04:24
00:04:24
พระยะโฮวาแสดงพลังอำนาจของพระองค์ยังไง?00:04:27
00:04:27
ในข้อ 12 พระองค์ยอมให้ซาตาน
โจมตีโยบในระดับหนึ่ง แต่บอกว่า 00:04:33
00:04:33
“อย่าได้แตะต้องตัวเขาเป็นอันขาด!”00:04:36
00:04:36
พระยะโฮวาเป็นฝ่ายกำหนดว่า
ซาตานจะทำอะไรได้แค่ไหน00:04:40
00:04:40
และมันก็ต้องทำตาม 00:04:42
00:04:42
และนี่ทำให้เห็นว่า 00:04:43
00:04:43
ซาตานไม่สามารถ
ควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างได้ 00:04:46
00:04:46
พระยะโฮวาทำให้เห็นว่า
มันไม่มีอำนาจสูงสุด 00:04:49
00:04:49
เทียบพระองค์ไม่ได้เลย 00:04:51
00:04:51
ซาตานไม่มีวันจะได้สิ่งที่มันอยากได้มากที่สุด 00:04:55
00:04:55
เพราะถึงยังไงก็จะมีคนที่นมัสการ
พระเจ้าอย่างภักดีบนโลกนี้เสมอ00:05:02
00:05:03
ดังนั้น โยบบทที่ 1 ทำให้เห็นว่า 00:05:05
00:05:05
ซาตานมีอำนาจน้อยกว่า
และพระยะโฮวามีอำนาจมากกว่า 00:05:10
00:05:10
และในบทที่ 2 บอกว่า 00:05:12
00:05:12
ทูตสวรรค์มาประชุมกัน
ต่อหน้าพระยะโฮวาอีก 00:05:15
00:05:15
ในการประชุมรอบสองนี้00:05:17
00:05:17
ซาตานก็มาอยู่ต่อหน้าพระยะโฮวาด้วย 00:05:20
00:05:19
และในข้อ 6 สังเกตว่าเกิดอะไรขึ้น 00:05:22
00:05:22
เมื่อมันกล่าวหาโยบว่าจะ
ไม่ซื่อสัตย์ต่อพระยะโฮวา?00:05:26
00:05:26
ในข้อ 6 พระยะโฮวาบอกว่า00:05:28
00:05:28
“เจ้าจะทำอะไรกับเขาก็ได้
แต่อย่าให้ถึงตายเด็ดขาด!”00:05:32
00:05:32
เราเห็นว่าซาตานไม่มีอำนาจเท่าพระยะโฮวา 00:05:35
00:05:35
มันไม่สามารถทำทุกอย่างที่ต้องการ 00:05:37
00:05:37
มันต้องเชื่อฟัง 00:05:39
00:05:39
ไม่ฟังไม่ได้00:05:41
00:05:41
เราเห็นว่าพระยะโฮวาเป็นผู้มีพลังอำนาจสูงสุด 00:05:45
00:05:45
นี่เป็นจุดสำคัญในคำบรรยายนี้ 00:05:47
00:05:47
การที่เรารู้ว่าพระยะโฮวา
มีอำนาจมากที่สุด00:05:50
00:05:50
ช่วยเราให้อดทนและไว้ใจพระองค์ 00:05:53
00:05:53
เราจะได้เห็นวิธี
ที่พระองค์แสดงอำนาจอีกครั้ง00:05:58
00:05:58
ในบท 42 ข้อ 10 00:06:00
00:06:02
บท 42 ข้อ10 00:06:04
00:06:05
โยบต้องอดทนกับการทดสอบ
เป็นเวลาไม่กี่เดือน อาจจะไม่ถึงปี 00:06:10
00:06:10
และในที่สุดมันก็จบลง 00:06:13
00:06:13
สังเกตว่าเกิดอะไรขึ้น?
ในข้อ 1000:06:16
00:06:16
“หลังจากที่โยบอธิษฐานเพื่อเพื่อนๆแล้ว 00:06:19
00:06:19
พระยะโฮวาก็ช่วยโยบให้พ้น
จากความทุกข์ทรมาน” 00:06:22
00:06:22
หรือพูดได้ว่า พระองค์ทำให้
ความทุกข์ของเขาหมดไป00:06:26
00:06:26
ดังนั้น เมื่อคำถามสำคัญเกี่ยวกับประเด็น00:06:30
00:06:29
เรื่องความซื่อสัตย์ภักดีได้รับคำตอบแล้ว 00:06:33
00:06:33
ก็เหมือนกับพระยะโฮวาบอกว่า
‘พอแล้ว!’00:06:36
00:06:36
‘เรื่องนี้จบแล้ว’ 00:06:38
00:06:38
และพระองค์ก็ลงมือทำทันที00:06:40
00:06:40
เพื่อช่วยโยบให้พ้น
จากความทุกข์ที่เขาเจอ 00:06:43
00:06:43
พระยะโฮวาไม่อนุญาต
ให้ซาตานทำได้ทุกอย่าง 00:06:47
00:06:47
ทำไมเรื่องนี้ถึงสำคัญ?00:06:49
00:06:49
เพราะการเข้าใจว่าพระยะโฮวามีพลัง
อำนาจสูงสุดช่วยเราให้มั่นใจว่า 00:06:54
00:06:54
พระองค์จะไม่ปล่อยให้โลกชั่วนี้00:06:57
00:06:57
ดำเนินต่อไปนานเกินความจำเป็น00:07:01
00:07:01
ให้เราดูว่าเรื่องที่เรียนวันนี้00:07:04
00:07:03
เกี่ยวข้องยังไงกับโรม 15:400:07:06
00:07:06
บทเรียนวันนี้ช่วยเรา
ให้อดทนและไม่ลืมว่า 00:07:11
00:07:11
การทดสอบอะไรก็ตามที่เราเจอ
จะไม่หนักเกินกว่าที่เราจะทนไหว 00:07:15
00:07:15
เรามั่นใจได้ว่าพระยะโฮวาควบคุม
สถานการณ์ทุกอย่างได้ 00:07:20
00:07:20
อะไรก็ตามที่พระองค์ยอมให้เกิดขึ้น00:07:22
00:07:22
ก็เพื่อเป็นไปตาม
ความประสงค์ของพระองค์ 00:07:24
00:07:24
และซาตานไม่มีอำนาจปกครอง 00:07:26
00:07:26
นี่พิสูจน์ให้เราเห็นว่า00:07:28
00:07:28
พระยะโฮวาอยากจะช่วยเรา
ให้พ้นจากสภาพที่ต้องทนทุกข์00:07:33
00:07:33
ใช่แล้ว สิ่งที่เราคุยกันวันนี้
ก็ “เขียนไว้เพื่อสอนเรา”00:07:40
มาร์ก นูแมร์—เราสามารถอดทนได้เหมือนโยบ (โรม 15:4)
-
มาร์ก นูแมร์—เราสามารถอดทนได้เหมือนโยบ (โรม 15:4)
วันนี้เราจะมาดูบทเรียน
จากหนังสือโยบด้วยกันครับ
บทเรียนก็คือ
ถึงแม้ว่าพระเจ้าจะยอม
ให้ซาตานเป็นผู้ปกครองโลก
หนังสือโยบก็ช่วยเราให้มั่นใจว่า
พระยะโฮวาเป็นผู้มีอำนาจสูงสุด
และถ้าเรามั่นใจในอำนาจของพระองค์
ก็จะช่วยให้เราอดทนได้
ในหนังสือโยบมีการเรียก
พระยะโฮวาว่า “ผู้มีพลังอำนาจสูงสุด”
ถึง 32 ครั้ง
ซึ่งมากกว่าเล่มอื่นทั้งหมดในไบเบิลรวมกัน
ไบเบิลไม่ได้บอกแค่เรื่องราวของโยบเท่านั้น
แต่ยังบอกเรื่องราวที่อยู่เบื้องหลังด้วย
ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่
เกิดขึ้นในสวรรค์ที่โยบไม่รู้
และยังสอนเราด้วยว่า
พระยะโฮวามีพลังอำนาจสูงสุด
ให้เรามาดูด้วยกันครับ
เปิดอ่านด้วยกันที่โยบ บทที่ 1
หนังสือโยบ บทที่ 1
เราจะเริ่มอ่านข้อที่ 6
“วันหนึ่ง ลูกๆ ของพระยะโฮวา
พระเจ้าเที่ยงแท้
มาประชุมกันต่อหน้าพระองค์
ซาตานก็มาด้วย”
ซาตานไปที่นั่นได้ก็เพราะ
พระยะโฮวายอมให้มันเข้าไป
พระยะโฮวายอมให้ซาตานอยู่ที่นั่น
ก็เพื่อคำถามสำคัญจะได้รับคำตอบ
อย่าลืมว่าพระยะโฮวาเป็นผู้มีอำนาจ
ปกครองสูงสุดในเอกภพ
พระองค์ไม่กลัวซาตาน
พระยะโฮวาควบคุมทุกอย่างได้
สั่งการได้ทุกอย่าง
และไม่มีอะไรจะมาทำให้
พระองค์สูญเสียอำนาจ
เราจะเห็นเรื่องนี้ได้ในข้อ 7
“พระยะโฮวาถามซาตานว่า ‘ไปไหนมา?’”
จากเหตุการณ์นี้ทำให้เราเห็นว่า
พระยะโฮวามีอำนาจเหนือซาตาน
เมื่อพระองค์ถาม ซาตานก็ต้องตอบ
พระยะโฮวารู้อยู่แล้วว่าซาตานไปไหนมา
แต่การที่พระองค์ถามซาตานแบบนั้น
ก็เพื่อให้ทุกคนได้รู้
สิ่งที่พระยะโฮวารู้อยู่แล้ว
ซาตานตอบพระยะโฮวาว่า
“ไปเดินเที่ยวในโลกมา”
มันคงไม่ทำเรื่องดีแน่ๆ
ตอนนี้ให้เราดูที่ข้อ 8
ว่าพระยะโฮวาจะทำอะไรต่อไป?
พระองค์บีบให้ซาตาน
เปิดเผยเจตนาของมัน
ข้อ 8
“พระยะโฮวาพูดกับซาตานว่า
‘เคยสังเกตโยบผู้รับใช้ของเราไหม?’”
หรือพูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ
“เคยสนใจดูโยบบ้างไหม?”
พระองค์รู้ว่าซาตานต้องการอะไร
และบีบให้มันพูดออกมา
แต่ซาตานขี้ขลาด
มันไม่ยอมพูดถึงเรื่องของโยบ
จนพระยะโฮวาต้องพูดขึ้นมาก่อน
พระองค์รู้อยู่แล้วว่ามันอยากจะเล่นงานโยบ
เราเห็นว่าพระยะโฮวารู้ว่า
ซาตานกำลังคิดอะไรอยู่
เหมือนพระองค์พูดกับซาตานว่า
‘คิดอะไรอยู่ก็พูดออกมาเลย’
แล้วในข้อ 10 ซาตานก็ตอบว่า
‘พระองค์ปกป้องตัวเขา
เขาทำอะไรพระองค์ก็อวยพร’
นี่ก็จริง และซาตานก็ทำอะไรไม่ได้
เราเห็นว่าการที่ซาตานทำอะไรโยบไม่ได้
แสดงว่าซาตานไม่มีอำนาจ
อะไรเลยเมื่อเทียบกับพระยะโฮวา
พระยะโฮวามีสิทธิ์
ที่จะปกป้องคนของพระองค์
และพระองค์ก็ใช้อำนาจ
ที่ยิ่งใหญ่เพื่อทำอย่างนั้น
พระยะโฮวาทำยังไงตอนที่
อาดัมกบฏในสวนเอเดน?
พระองค์จัดการทันทีเพื่อปกป้อง
สวนเอเดนและต้นไม้ที่ให้ชีวิต
โดยให้เครูบสององค์เฝ้าทางเข้าสวนไว้
ซาตานก็ทำอะไรไม่ได้
และในสมัยโนอาห์
พระยะโฮวาก็ให้น้ำมาท่วม
ทำลายพวกเนฟิล
ซาตานไม่สามารถปกป้องไม่ให้
พระยะโฮวาทำลายพวกเนฟิลได้
และนี่เน้นอีกครั้งถึงอำนาจ
ที่ยิ่งใหญ่ของพระยะโฮวา
ตอนนี้ให้เราดูบท 1 ข้อ 11
ซาตานบอกพระยะโฮวาว่า
“ลองทำให้เขาสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างดูสิ”
ซาตานอยากให้พระยะโฮวา
เป็นฝ่ายโจมตีโยบไหม?
ไม่ พระองค์ไม่ทำแน่ๆ
พระยะโฮวายังเป็นผู้ควบคุมสถานการณ์
และไม่โต้เถียงกับซาตาน
พระองค์ไม่ยอมให้ซาตานบงการ
และไม่มีวันทำร้ายผู้รับใช้ของพระองค์
แต่พระองค์ยอมให้ซาตาน
ทดสอบโยบอยู่ช่วงหนึ่ง
เราจะเห็นในข้อ 12
ขอสังเกตอีกครั้งว่า
พระยะโฮวาแสดงพลังอำนาจของพระองค์ยังไง?
ในข้อ 12 พระองค์ยอมให้ซาตาน
โจมตีโยบในระดับหนึ่ง แต่บอกว่า
“อย่าได้แตะต้องตัวเขาเป็นอันขาด!”
พระยะโฮวาเป็นฝ่ายกำหนดว่า
ซาตานจะทำอะไรได้แค่ไหน
และมันก็ต้องทำตาม
และนี่ทำให้เห็นว่า
ซาตานไม่สามารถ
ควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างได้
พระยะโฮวาทำให้เห็นว่า
มันไม่มีอำนาจสูงสุด
เทียบพระองค์ไม่ได้เลย
ซาตานไม่มีวันจะได้สิ่งที่มันอยากได้มากที่สุด
เพราะถึงยังไงก็จะมีคนที่นมัสการ
พระเจ้าอย่างภักดีบนโลกนี้เสมอ
ดังนั้น โยบบทที่ 1 ทำให้เห็นว่า
ซาตานมีอำนาจน้อยกว่า
และพระยะโฮวามีอำนาจมากกว่า
และในบทที่ 2 บอกว่า
ทูตสวรรค์มาประชุมกัน
ต่อหน้าพระยะโฮวาอีก
ในการประชุมรอบสองนี้
ซาตานก็มาอยู่ต่อหน้าพระยะโฮวาด้วย
และในข้อ 6 สังเกตว่าเกิดอะไรขึ้น
เมื่อมันกล่าวหาโยบว่าจะ
ไม่ซื่อสัตย์ต่อพระยะโฮวา?
ในข้อ 6 พระยะโฮวาบอกว่า
“เจ้าจะทำอะไรกับเขาก็ได้
แต่อย่าให้ถึงตายเด็ดขาด!”
เราเห็นว่าซาตานไม่มีอำนาจเท่าพระยะโฮวา
มันไม่สามารถทำทุกอย่างที่ต้องการ
มันต้องเชื่อฟัง
ไม่ฟังไม่ได้
เราเห็นว่าพระยะโฮวาเป็นผู้มีพลังอำนาจสูงสุด
นี่เป็นจุดสำคัญในคำบรรยายนี้
การที่เรารู้ว่าพระยะโฮวา
มีอำนาจมากที่สุด
ช่วยเราให้อดทนและไว้ใจพระองค์
เราจะได้เห็นวิธี
ที่พระองค์แสดงอำนาจอีกครั้ง
ในบท 42 ข้อ 10
บท 42 ข้อ10
โยบต้องอดทนกับการทดสอบ
เป็นเวลาไม่กี่เดือน อาจจะไม่ถึงปี
และในที่สุดมันก็จบลง
สังเกตว่าเกิดอะไรขึ้น?
ในข้อ 10
“หลังจากที่โยบอธิษฐานเพื่อเพื่อนๆแล้ว
พระยะโฮวาก็ช่วยโยบให้พ้น
จากความทุกข์ทรมาน”
หรือพูดได้ว่า พระองค์ทำให้
ความทุกข์ของเขาหมดไป
ดังนั้น เมื่อคำถามสำคัญเกี่ยวกับประเด็น
เรื่องความซื่อสัตย์ภักดีได้รับคำตอบแล้ว
ก็เหมือนกับพระยะโฮวาบอกว่า
‘พอแล้ว!’
‘เรื่องนี้จบแล้ว’
และพระองค์ก็ลงมือทำทันที
เพื่อช่วยโยบให้พ้น
จากความทุกข์ที่เขาเจอ
พระยะโฮวาไม่อนุญาต
ให้ซาตานทำได้ทุกอย่าง
ทำไมเรื่องนี้ถึงสำคัญ?
เพราะการเข้าใจว่าพระยะโฮวามีพลัง
อำนาจสูงสุดช่วยเราให้มั่นใจว่า
พระองค์จะไม่ปล่อยให้โลกชั่วนี้
ดำเนินต่อไปนานเกินความจำเป็น
ให้เราดูว่าเรื่องที่เรียนวันนี้
เกี่ยวข้องยังไงกับโรม 15:4
บทเรียนวันนี้ช่วยเรา
ให้อดทนและไม่ลืมว่า
การทดสอบอะไรก็ตามที่เราเจอ
จะไม่หนักเกินกว่าที่เราจะทนไหว
เรามั่นใจได้ว่าพระยะโฮวาควบคุม
สถานการณ์ทุกอย่างได้
อะไรก็ตามที่พระองค์ยอมให้เกิดขึ้น
ก็เพื่อเป็นไปตาม
ความประสงค์ของพระองค์
และซาตานไม่มีอำนาจปกครอง
นี่พิสูจน์ให้เราเห็นว่า
พระยะโฮวาอยากจะช่วยเรา
ให้พ้นจากสภาพที่ต้องทนทุกข์
ใช่แล้ว สิ่งที่เราคุยกันวันนี้
ก็ “เขียนไว้เพื่อสอนเรา”
-