JW subtitle extractor

"พระเจ้าจะไม่รอช้าอีกต่อไป"

Video Other languages Share text Share link Show times

คุณเห็นด้วยไหมว่าเรากำลังอยู่
ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก?
แม้จะมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี
แต่ผู้คนก็ยังต้องทนทุกข์กับสงคราม
การขาดแคลนอาหาร
โรคระบาด และภัยพิบัติที่มีมากมาย
สำหรับเราก็ยังต้องเจอกับการต่อต้าน
และการข่มเหง
ที่มาจากคนที่ไม่รู้จักพระยะโฮวาด้วย
เราอยากได้รับความยุติธรรมและการบรรเทาจริงๆ
หนังสือวิวรณ์บันทึกคำพูดของ
พวกผู้ซื่อสัตย์ที่ถูกฆ่าเพราะความเชื่อ
พวกเขาร้องบอกพระยะโฮวาว่า
“พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่สูงสุด
พระเจ้าองค์บริสุทธิ์และเที่ยงแท้
เมื่อไหร่พระองค์จะมาพิพากษา
และแก้แค้นคน...ที่ฆ่าพวกเรา?”
แม้ว่าพวกเขาจะได้รับคำสั่งให้รอต่อไปอีกหน่อย
แต่พระเยซูก็ให้คำรับรอง
ที่บันทึกไว้ในวิวรณ์ 10:6 ว่า
“พระเจ้าจะไม่รอช้าอีกต่อไป”
เป็นข่าวที่ดีจริงๆ
หนังสือวิวรณ์ทั้งเล่มเป็นข่าวดี
สำหรับทุกคนที่รักและวางใจพระยะโฮวา
หนังสือนี้บอกล่วงหน้า
ถึงเหตุการณ์ที่น่าตื่นเต้น
แต่เราไม่จำเป็นต้องกลัว
เพราะเรารู้ว่าพระยะโฮวาจะดูแลเรา
หนังสือวิวรณ์บอกข่าวดีที่ว่า
ทุกอย่างที่ทำให้เราเป็นทุกข์ในตอนนี้
อีกไม่นานจะหมดไป
คำสัญญาทั้งหมดรวมจุดอยู่ที่บุคคลเดียว
คือพระเยซูคริสต์
ประโยคแรกในหนังสือเล่มนี้บอกว่า
“นี่คือเรื่องที่พระเจ้าเปิดเผย
ผ่านทางพระเยซูคริสต์”
หนังสือวิวรณ์บอกให้รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น
ใน “วันของผู้เป็นนาย”
ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เริ่มต้น
เมื่อพระเยซูเป็นกษัตริย์ในปี 1914
ไปจนถึงตอนสิ้นสุด
การปกครอง 1,000 ปี ของท่าน
หนังสือวิวรณ์ตลอดทั้งเล่ม
เน้นบทบาทสำคัญของพระเยซู
ในการทำลายศัตรูของพระเจ้า
ขจัดความทุกข์ให้เรา
และฟื้นฟูโลกให้เป็นสวนอุทยาน
สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่คำสัญญา
แต่วิวรณ์ 1:1 บอกว่า
เรื่องทั้งหมด “จะต้องเกิดขึ้นเร็วๆนี้”
เรื่องอะไรบ้าง “ที่จะต้องเกิดขึ้นเร็วๆนี้”?
พระเยซูจะมีบทบาทอะไร
ในเหตุการณ์เหล่านั้น?
และเราจะได้รับความยุติธรรม
และการบรรเทาได้ยังไง?
เรื่องแรกที่เราจะดูกันก็คือ
จะเกิดอะไรขึ้นกับศาสนาเท็จทั้งหมดในโลก?
ขอเปิดไปที่หนังสือวิวรณ์บท 18 ครับ
หนังสือวิวรณ์พูดถึงศาสนาเท็จ
ว่าเป็นเหมือนหญิงโสเภณีที่ชั่วร้าย
ซึ่งถูกเรียกว่า “บาบิโลนใหญ่”
ตลอดหลายพันปี เธอเยาะเย้ย
ข่มเหง และฆ่าคนของพระเจ้า
เธอเอาเปรียบและหลอกลวงผู้คน
ด้วยการโกหกอย่างไร้ยางอาย
เธอมีอิทธิพลมาก
แต่ทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยนไป
เมื่อเราเริ่มอ่านวิวรณ์ 18:1
ขอสังเกตว่า
จะเกิดอะไรขึ้นกับบาบิโลนใหญ่?
และทำไม?
หลังจากนั้น ผมเห็นทูตสวรรค์
อีกองค์หนึ่งลงมาจากสวรรค์
ท่านมีอำนาจยิ่งใหญ่
และรัศมีของท่านทำให้โลกสว่างไสว
ท่านประกาศเสียงดังว่า
เมืองนี้ล่มจมแล้ว
บาบิโลนใหญ่ล่มจมแล้ว
เมืองนี้กลายเป็นที่อาศัยของพวกปีศาจ
และมีอากาศที่เป็นพิษทุกอย่าง
เป็นที่อยู่ของนกที่ไม่สะอาด
และน่าเกลียดทุกชนิด
เหล้าองุ่นของเธอซึ่งก็คือความใคร่
อยากทำผิดศีลธรรมทางเพศ
ทำให้ทุกประเทศตกเป็นเหยื่อ
พวกกษัตริย์บนโลก
ทำผิดศีลธรรมทางเพศกับเธอ
และพวกพ่อค้าในโลกก็ร่ำรวย
เพราะความหรูหราฟุ่มเฟือยของเธอ
แล้วผมก็ได้ยินเสียงอีกเสียงหนึ่ง
จากสวรรค์พูดว่า
“ประชาชนของเรา
พวกคุณต้องออกมาจากเมืองนี้
ถ้าไม่อยากมีส่วนร่วมในบาปของเมืองนี้
และรับภัยพิบัติพร้อมกับเมืองนี้
เพราะบาปของเมืองนี้
กองสูงขึ้นไปถึงสวรรค์แล้ว
และพระเจ้าไม่ลืมความชั่วของเมืองนี้
เมืองนี้เคยทำกับคนอื่นอย่างไร
ก็ให้ทำกับเมืองนี้อย่างนั้น
และให้หนักกว่า 2 เท่า
ผู้หญิงคนนี้เคยผสมอะไรใส่ถ้วยให้คนอื่นดื่ม
ก็ให้ผสมสิ่งนั้นให้เธอเป็น 2 เท่า
เธอเคยยกย่องให้เกียรติตัวเอง
และใช้ชีวิตหรูหราฟุ่มเฟือยมากขนาดไหน
ก็ให้ทรมานเธอและทำให้เธอ
โศกเศร้ามากขนาดนั้น
เพราะเธอชอบคิดในใจว่า
‘เราเป็นถึงราชินี ไม่ใช่แม่ม่าย
ไม่มีวันที่เราจะโศกเศร้าเสียใจหรอก’
เพราะอย่างนั้น
ภัยพิบัติจะเกิดกับเมืองนี้ในวันเดียว
คือความตาย ความโศกเศร้า ความอดอยาก
และเมืองนี้จะถูกไฟเผาจนสิ้นซาก
เพราะพระยะโฮวาพระเจ้าผู้พิพากษาเมืองนี้
เป็นผู้มีพลังอำนาจ”
บาบิโลนมองว่าตัวเองเป็นราชินีที่มีอำนาจ
ซึ่งไม่มีวันถูกโค่นล้ม
เพราะอะไร?
เพราะเธอเจริญรุ่งเรืองมาเป็นพันๆปีแล้ว
แต่หายนะที่น่าสยดสยองกำลังใกล้เข้ามา
และมันจะเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน
เหมือน “ในวันเดียว”
พระเยซูมีบทบาทอะไรในเหตุการณ์นี้?
ขอสังเกตในข้อ 1 และ 2 อีกครั้ง
ใครเป็นคนประกาศว่า
บาบิโลนใหญ่ล่มจมแล้ว?
ก็คือทูตสวรรค์ที่รัศมีของท่าน
ทำให้โลกสว่างไสว
แล้วพระยะโฮวาให้รัศมีนี้กับใคร?
พระเยซูผู้เป็นนายของเรา
ตั้งแต่ปี 1914
พระเยซูใช้อำนาจของท่านบนโลก
ในฐานะกษัตริย์และผู้พิพากษา
จึงเหมาะที่ท่านเป็นผู้ประกาศว่า
“บาบิโลนใหญ่ล่มจมแล้ว”
แต่คำประกาศนี้ก็มีคำเตือนด้วย
“ออกมาจากเมืองนี้”!
เราไม่ต้องการมีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ
กับองค์กรที่กำลังจะถูกทำลาย
พระยะโฮวารังเกียจบาบิโลนใหญ่
เราก็ต้องเกลียดด้วย!
แต่ก็มีคนหลายกลุ่ม
ที่ได้รับประโยชน์จากศาสนาเท็จ
กษัตริย์ของโลกพึ่งบาบิโลนใหญ่
ให้สนับสนุนนโยบายและสงคราม
พวกพ่อค้าก็ได้ผลประโยชน์ทางการเงิน
พวกเขามีปฏิกิริยายังไง
เมื่อเห็นบาบิโลนใหญ่ถูกทำลายอย่างกะทันหัน?
ให้เราดูคำตอบด้วยกัน
จากวิวรณ์ 18:9 ครับ
กษัตริย์ของโลก
ที่เคยทำผิดศีลธรรมทางเพศกับเธอ
และใช้ชีวิตร่วมกับเธออย่างหรูหราฟุ่มเฟือย
จะร้องไห้เสียใจเพื่อเธอ
เมื่อเห็นควันไฟที่เผาไหม้เธอ
พวกเขาจะยืนอยู่ห่างๆ
เพราะกลัวการทรมานที่เธอได้รับ
และจะพูดว่า
‘น่าเสียดาย น่าเสียดายบาบิโลน
เมืองที่ใหญ่โตแข็งแกร่ง
เพราะในชั่วโมงเดียว
เธอก็ถูกตัดสินลงโทษซะแล้ว’
พวกพ่อค้าในโลกก็ร้องไห้เสียใจเพื่อเมืองนี้ด้วย
เพราะไม่มีใครมาซื้อสินค้าของพวกเขาอีกแล้ว
ทั้งทองคำ เงิน เพชรพลอย ไข่มุก
ผ้าลินินเนื้อดี ผ้าสีม่วง ผ้าไหม ผ้าสีแดงเข้ม
ของทุกอย่างที่ทำจากไม้หอม
ของทุกชนิดที่ทำจากงาช้าง
จากไม้มีราคา จากทองแดง เหล็ก และหินอ่อน
และยังมีอบเชย เครื่องเทศจากอินเดีย
เครื่องหอม น้ำมันหอม กำยาน
เหล้าองุ่น น้ำมันมะกอก
แป้งเนื้อละเอียด ข้าวสาลี วัว แกะ
ม้า รถม้า ทาส และผู้คนด้วย
ของดีๆที่เมืองนี้หลงใหลหายไปหมดแล้ว
อาหารรสเลิศกับของหรูๆทั้งหมดก็หายวับไป
และเมืองนี้จะไม่ได้เห็นของพวกนั้นอีกเลย
พวกพ่อค้าที่ขายของพวกนั้น
และร่ำรวยขึ้นมาเพราะเมืองนี้
จะยืนอยู่ห่างๆ
เพราะกลัวการทรมานที่เธอได้รับ
พวกเขาจะร้องไห้เสียใจ และพูดว่า
‘น่าเสียดาย น่าเสียดายเมืองใหญ่โต
ที่ประดับด้วยผ้าลินินเนื้อดี
ผ้าสีม่วง ผ้าสีแดงเข้ม
และตกแต่งอย่างหรูหราด้วยทองคำ
เพชรพลอย และไข่มุก
เพราะในชั่วโมงเดียว
ทรัพย์สมบัติมากมายพวกนั้น
ก็ถูกทำลายจนหมด’
พวกกัปตันเรือ คนที่มีอาชีพเดินเรือ กะลาสี
และคนที่หากินกับทะเล
พวกเขาทุกคนก็ยืนอยู่ห่างๆ
พวกเขามองดูควัน
จากไฟที่เผาเมืองนี้และร้องว่า
‘เมืองไหนจะยิ่งใหญ่เหมือนเมืองนี้ได้อีก?’
พวกเขาเอาฝุ่นซัดใส่หัวตัวเอง
พร้อมกับส่งเสียงร้องไห้เสียใจและพูดว่า
‘น่าเสียดาย น่าเสียดายเมืองที่ใหญ่โตมั่งคั่ง
เมืองนี้ทำให้เจ้าของเรือเดินทะเลร่ำรวย
แต่ในชั่วโมงเดียว
เมืองนี้ก็ถูกทำลายจนสิ้นซาก’
พวกเขาร้องว่า “น่าเสียดาย น่าเสียดาย”
แล้วผู้รับใช้ของพระเจ้าล่ะ?
พวกเขามีปฏิกิริยาที่แตกต่างออกไปมาก
ให้เราอ่านต่อในข้อ 20
เพื่อดูว่าผู้รับใช้ของพระเจ้า
ทั้งในสวรรค์และบนโลก
จะมีปฏิกิริยายังไงในตอนนั้น
และขอสังเกตด้วยว่า
ทำไมศาสนาเท็จถึงสมควรถูกทำลาย?
“สวรรค์ รวมทั้งพวกผู้บริสุทธิ์
พวกอัครสาวก และพวกผู้พยากรณ์
ขอให้ดีใจเถอะที่เมืองนี้ถูกทำลาย
เพราะพระเจ้าตัดสินลงโทษ
เมืองนี้เพื่อพวกคุณแล้ว”
แล้วทูตสวรรค์ที่มีพลังอำนาจมากองค์หนึ่ง
ก็ยกหินก้อนหนึ่งที่เหมือนหินโม่ขนาดใหญ่
ทุ่มลงในทะเลและพูดว่า
“บาบิโลนเมืองใหญ่จะถูกเหวี่ยงลง
อย่างรวดเร็วแบบนี้แหละ
และจะไม่มีใครได้เห็นเมืองนี้อีกเลย
จะไม่มีใครได้ยินเสียง
คนที่ร้องเพลงคลอเสียงพิณ
คนเล่นดนตรี คนเป่าขลุ่ย
และคนเป่าแตรในเมืองนี้อีก
จะไม่มีใครได้เห็นช่างฝีมือไม่ว่าประเภทไหน
และจะไม่มีใครได้ยินเสียงหินโม่ในเมืองนี้อีกเลย
จะไม่มีแสงตะเกียงส่องสว่าง
และจะไม่มีใครได้ยินเสียงเจ้าบ่าวเจ้าสาว
ในเมืองนี้อีกเลย
พวกพ่อค้าของเมืองนี้
เคยเป็นคนใหญ่คนโตในโลก
และประเทศต่างๆก็ถูกหลอกลวง
เพราะการเล่นไสยศาสตร์ของเมืองนี้
ในเมืองนี้มีเลือดของพวกผู้พยากรณ์
ผู้บริสุทธิ์
และเลือดของคนที่ถูกฆ่าบนโลก”
หลังจากนั้น
ผมได้ยินเสียงดังเหมือนเสียงคนมากมาย
ในสวรรค์พูดว่า
“ให้ทุกคนสรรเสริญยาห์
ความรอดมาจากพระองค์ เกียรติยศ
และฤทธิ์อำนาจเป็นของพระเจ้าของเรา
เพราะพระองค์พิพากษา
อย่างถูกต้องและยุติธรรม
พระองค์ได้ลงโทษผู้หญิงโสเภณีคนสำคัญ
ที่ทำให้โลกเสื่อมเสีย
ด้วยการผิดศีลธรรมทางเพศของเธอ
และพระองค์ได้แก้แค้น
แทนทาสของพระองค์ที่ถูกเธอฆ่า”
พวกเขาพูดอีกครั้งว่า
“ให้ทุกคนสรรเสริญยาห์
ให้ควันจากเมืองนั้นลอยขึ้นตลอดไป”
ใช่แล้ว “ให้ทุกคนสรรเสริญยาห์”
ทำไม?
พวกผู้นำศาสนาต้องรับผิดชอบการตาย
ของพวกผู้พยากรณ์และพระเยซูคริสต์ด้วย
ต่อมา สาวกสเทเฟนถามพวกผู้นำศาสนาว่า
“มีผู้พยากรณ์คนไหนบ้าง
ที่บรรพบุรุษของคุณไม่ได้ข่มเหง?
พวกเขาฆ่าคนที่บอกล่วงหน้า
เรื่องการมาของท่านผู้นั้นที่เชื่อฟังพระเจ้า
และตอนนี้พวกคุณเองทรยศและฆ่าท่าน”
แทนที่จะใส่ใจคำพูดของสเทเฟน
พวกเขากลับฆ่าสเทเฟนในวันนั้นเลย
จากสมัยของสเทเฟน ผ่านมานับพันๆปี
ศาสนาเท็จก็ยังหลอกลวง ฆ่าคน
และทำให้โลกเสื่อมทราม
เพราะการเล่นชู้ของเธอ
เราจึงถามอีกครั้งว่า
ทำไมต้อง “สรรเสริญยาห์”?
เสียงในสวรรค์ตอบว่า
“เพราะพระองค์พิพากษา
อย่างถูกต้องและยุติธรรม”
พระยะโฮวาพระเจ้าที่ยุติธรรมของเรา
จะไม่ยอมให้ศาสนาเท็จทำให้โลกเสื่อมทราม
และทำร้ายผู้รับใช้ของพระองค์อีกต่อไป
การทำลายบาบิโลนใหญ่
เป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งที่พระเยซูเรียกว่า
“ความทุกข์ยากลำบากครั้งใหญ่”
หลังจากศาสนาเท็จถูกทำลายแล้ว
จะเกิดอะไรขึ้นต่อไป?
หนังสือเอเสเคียลบอกล่วงหน้าว่า
ชาติต่างๆจะโจมตีคนของพระยะโฮวา
พวกเขาจะมาเป็น “กองทัพใหญ่”
เหมือน “เมฆปกคลุมแผ่นดิน”
แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ระบบการเมือง
ต่อต้านพระยะโฮวาและคนของพระองค์
ที่ผ่านมามีหลายชาติต่อต้าน
การนมัสการแท้อย่างรุนแรง
สั่งห้ามการประชุมและงานประกาศ
จำคุกพี่น้องชายหญิงทั้งวัยรุ่นและคนแก่
ในฐานะอาชญากร
เพียงเพราะพวกเขามีคัมภีร์ไบเบิล
และพูดเรื่องพระเจ้า
พี่น้องของเราบางคนถึงกับถูกทรมาน
เพราะความเชื่อ
แน่นอนว่า ตราบใดที่พระยะโฮวา
ยอมให้รัฐบาลของมนุษย์ปกครองเรา
เราก็จะนับถือพวกเขา
และไม่ใช่ทุกรัฐบาลที่ต่อต้านเรา
ถึงอย่างนั้น รัฐบาลของมนุษย์
ก็กำลังดูหมิ่นพระยะโฮวา
พวกเขาทำเหมือนกับว่า
ตัวเองปกครองได้ดีกว่าพระเยซู
“กษัตริย์เหนือกษัตริย์ทั้งหลาย
และนายเหนือเจ้านายทั้งหลาย”
อวดดีจริงๆ!
ดังนั้น เมื่ออำนาจทางการเมือง
เริ่มโจมตีคนของพระเจ้า
พระเยซูจะจัดการทันที
ในวิวรณ์บท 19 ขอสังเกตว่า
พระเยซูจะทำอะไรกับมหาอำนาจโลก
อังกฤษ-อเมริกา
ซึ่งถูกเรียกว่า “ผู้พยากรณ์เท็จ”
และระบบทางการเมืองทั้งหมดที่ถูกเรียกว่า
“พวกกษัตริย์บนโลก” และ “สัตว์ร้าย”
เราจะเริ่มอ่านที่วิวรณ์ 19:11 ครับ
ผมเห็นสวรรค์เปิดออก
ดูนั่น มีม้าขาวตัวหนึ่ง
ผู้ที่นั่งบนม้านั้นมีชื่อว่า ซื่อสัตย์และเชื่อถือได้
ท่านพิพากษาและทำสงคราม
อย่างถูกต้องชอบธรรม
ตาของท่านเป็นเหมือนเปลวไฟ
และท่านสวมมงกุฎหลายอัน
ท่านมีชื่อเขียนไว้บนตัวซึ่งเป็นชื่อ
ที่ไม่มีใครรู้จักนอกจากตัวท่านเอง
ท่านใส่เสื้อชั้นนอกที่มีรอยเปื้อนเลือด
และท่านมีชื่อว่า โฆษกของพระเจ้า
กองทัพในสวรรค์ก็ขี่ม้าขาวตามท่านไป
และพวกเขาแต่งตัวด้วย
ผ้าลินินเนื้อดีสีขาวสะอาด
มีดาบยาวคมกริบออกมาจากปากของท่าน
ท่านจะใช้ดาบนั้นฟันประเทศต่างๆ
และจะปกครองพวกเขาด้วยคทาเหล็ก
ท่านจะย่ำในบ่อย่ำองุ่นที่หมายถึง
ความโกรธจัดของพระเจ้าผู้มีพลังอำนาจสูงสุด
ท่านมีชื่อเขียนไว้บนเสื้อชั้นนอก
ที่บริเวณต้นขาว่า
กษัตริย์เหนือกษัตริย์ทั้งหลาย
และนายเหนือเจ้านายทั้งหลาย
ผมเห็นทูตสวรรค์องค์หนึ่งยืนอยู่ที่ดวงอาทิตย์
และเขาร้องเสียงดังบอกนกทุกตัว
ที่บินกลางท้องฟ้าว่า
“มานี่เร็ว
มาชุมนุมกันในงานเลี้ยงใหญ่ของพระเจ้า
มากินเนื้อของพวกกษัตริย์
เนื้อของพวกนายทหารชั้นผู้ใหญ่
เนื้อของคนที่มีอำนาจ
เนื้อม้ากับคนขี่ม้า
และเนื้อของทุกคน
ทั้งที่เป็นอิสระและเป็นทาส
ทั้งผู้ใหญ่ผู้น้อย”
แล้วผมก็เห็นสัตว์ร้ายนั้นกับพวกกษัตริย์บนโลก
และกองทัพของพวกเขารวมตัวกัน
เพื่อทำสงครามกับผู้ที่ขี่ม้าขาว
และกองทัพของท่าน
แล้วสัตว์ร้ายนั้นก็ถูกจับ
พร้อมกับผู้พยากรณ์เท็จ
คือผู้ที่ทำสิ่งมหัศจรรย์ต่างๆต่อหน้าสัตว์ร้าย
เพื่อหลอกลวงคนที่ได้รับ
เครื่องหมายของสัตว์ร้าย
และคนที่กราบไหว้รูปปั้นของมัน
ทั้งสัตว์ร้ายกับผู้พยากรณ์เท็จ
ก็ถูกโยนทั้งเป็น
ลงไปในบึงไฟที่ลุกไหม้ด้วยกำมะถัน
ส่วนคนที่เหลือก็ถูกฆ่าด้วยดาบยาว
ที่ออกจากปากของผู้ที่นั่งบนม้านั้น
และนกทุกตัวมากินเนื้อของพวกเขาจนอิ่ม
ไม่มีใครเหมาะเท่าพระเยซูอีกแล้ว
ที่จะนำกองทัพสวรรค์มาสู้
ในสงครามอาร์มาเกดโดน
ศาสนาเท็จถูกทำลายไปแล้ว
ตอนนี้พระเยซูจะจัดการกับส่วนที่เหลืออยู่
ในโลกของซาตาน
ซึ่งก็คือระบบการเมืองและการค้า
พระเยซูจะกำจัดและทำลายทุกคน
ที่ต่อต้านการนมัสการแท้บนโลก
แต่ศัตรูของการนมัสการแท้ก็ยังอยู่
คือใครครับ?
และพระเยซูจะทำอะไรกับศัตรูนี้?
ให้เราอ่านต่อที่ วิวรณ์ 20:1-3
แล้วผมเห็นทูตสวรรค์องค์หนึ่งลงมาจากสวรรค์
ถือลูกกุญแจของขุมลึก กับโซ่เส้นใหญ่
ท่านจับพญานาค งูตัวแรกนั้น
คือมารและซาตาน แล้วมัดมันไว้ 1,000 ปี
ท่านเหวี่ยงมันลงไปในขุมลึก
ขังมันไว้ และประทับตราขุมลึกนั้น
เพื่อไม่ให้มันออกมาหลอกลวงประเทศต่างๆอีก
จนกว่าจะครบ 1,000 ปี
แล้วหลังจากนั้น
จะต้องปล่อยมันออกมาระยะหนึ่ง
ใครถือ “ลูกกุญแจของขุมลึก”?
ก็คือคนเดียวกับที่พระคัมภีร์พยากรณ์ว่า
จะบดขยี้หัวของซาตาน
พระเยซูคริสต์นั่นเอง!
พระเยซูคือผู้ที่จะกำจัดศัตรูทั้งหมดของพระเจ้า
รวมถึงศัตรูตัวสำคัญซึ่งก็คือซาตาน
มันจะต้องไปอยู่ในขุมลึก
พระเยซูไม่ใช่แค่ค่อยๆหย่อนมันลงไป
แต่ท่านเหวี่ยงมัน
โล่งอกเลยใช่ไหมครับ?
หลังสงครามอาร์มาเกดโดน
รัฐบาลของพระเจ้าจะฟื้นฟูโลก
ให้เป็นอย่างที่พระยะโฮวาตั้งใจไว้ตั้งแต่แรก
คนที่ภักดีต่อพระยะโฮวา
จะได้เห็นหลายอย่างที่น่าทึ่ง
ให้เราดูอย่างหนึ่งด้วยกัน
เริ่มอ่านที่วิวรณ์ 20:12 ครับ
แล้วผมก็เห็นคนตาย
ทั้งผู้ใหญ่ผู้น้อยยืนอยู่ต่อหน้าบัลลังก์นั้น
และม้วนหนังสือต่างๆถูกคลี่ออก
มีม้วนหนังสืออีกม้วนหนึ่งถูกคลี่ออกด้วย
คือม้วนหนังสือที่มีรายชื่อคนที่จะได้ชีวิต
แล้วคนตายก็ถูกพิพากษา
ตามการกระทำของตัวเอง
โดยอาศัยสิ่งที่เขียนไว้ในม้วนหนังสือต่างๆนั้น
ทะเลได้ปล่อยคนที่ตายในทะเล
ความตายและหลุมศพ
ก็ปล่อยคนตายที่อยู่ในนั้น
แล้วพวกเขาแต่ละคนก็ถูกพิพากษา
ตามการกระทำของตัวเอง
แล้วความตายและหลุมศพก็ถูกโยนลงในบึงไฟ
บึงไฟหมายถึงความตายชนิดที่สอง
ตามที่บอกไว้ในข้อ 4
พระยะโฮวาผู้พิพากษาสูงสุด
ได้มอบ “อำนาจที่จะพิพากษา”
ให้พระเยซูคริสต์และผู้ร่วมปกครองกับท่าน
พวกเขาจะพิพากษาใครบ้าง?
ไม่ใช่แค่ชนฝูงใหญ่ที่รอดผ่านอาร์มาเกดโดน
แต่ยังมีอีกหลายพันล้านคนที่จะฟื้นขึ้นจากตาย
และเมื่อสิ้นสุดการปกครอง 1,000 ปี
ความตายก็จะไม่มีอีกต่อไป
เพราะจะ “ถูกโยนลงในบึงไฟ”
เหมือนเศษกระดาษที่ถูกโยนเข้าไปในเตาไฟ
แล้วก็หายวับไป
ชีวิตจะเป็นยังไง
เมื่อรัฐบาลของพระเจ้าปกครอง?
เราทุกคนชอบคำสัญญา
ที่บอกไว้ในวิวรณ์ 21:4
“และพระเจ้าจะเช็ดน้ำตาทุกหยด
จากตาของพวกเขา
ความตายจะไม่มีอีกต่อไป
ความโศกเศร้า
หรือเสียงร้องไห้เสียใจ
หรือความเจ็บปวดจะไม่มีอีกเลย”
ลองนึกภาพว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง
คนหูหนวกจะได้ยินเสียง
หยาดฝนที่โปรยปรายลงมา
ผู้คนที่มีความสุข
เสียงนกร้อง
และเสียงเพลงที่ไพเราะ
คนตาบอดจะมองเห็น
พวกเขาจะเห็นดาวมากมายบนท้องฟ้า
และสายรุ้งที่สวยงาม
พวกเขาจะมองดูเด็กๆเล่นกับสัตว์
ผู้คนที่เจ็บป่วย
จะได้รับการรักษาอย่างอัศจรรย์
ตลอดทั่วโลก
คนที่เคยพิการหรือสูงอายุจะเดินเล่นในป่า
ปีนขึ้นไปบนภูเขา
หรือวิ่งอยู่บนชายหาด
จะไม่มีความหิวโหย ความเจ็บป่วย
และความไม่ยุติธรรมอีกต่อไป
จะไม่มีคนชั่ว
ทุกคนจะมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง
รู้สึกปลอดภัยและมีความสุขตลอดไป
ขอให้นึกภาพว่า
เมื่อคำสัญญาทั้งหมดนี้เป็นจริง
คุณจะรู้สึกยังไง
เราจะสรุป
โดยอ่านข้อความจากบทสุดท้าย
ของหนังสือวิวรณ์
วิวรณ์ บท 22
จะพูดถึงพรอื่นๆที่เราจะได้รับ
เมื่อกษัตริย์ที่ยุติธรรมปกครองโลก
แล้วทูตสวรรค์องค์นั้น
ก็ให้ผมดูแม่น้ำสายหนึ่ง
ที่มีน้ำที่ให้ชีวิต
น้ำนั้นใสเหมือนผลึกไหลออกมาจากบัลลังก์
ของพระเจ้าและของลูกแกะของพระเจ้า
และไหลลงไปที่กลางถนนสายหลักของเมืองนั้น
บนสองฝั่งแม่น้ำมีต้นไม้ที่ให้ชีวิต
ซึ่งออกผล 12 ครั้ง
โดยออกผลเดือนละครั้ง
ใบของต้นไม้พวกนั้นใช้เยียวยารักษา
ผู้คนจากชาติต่างๆ
และจะไม่มีการสาปแช่งอีกเลย
แต่บัลลังก์ของพระเจ้าและของลูกแกะ
ของพระเจ้าจะอยู่ในเมืองนั้น
และทาสของพระเจ้าจะทำงานรับใช้
ที่ศักดิ์สิทธิ์ให้พระองค์
พวกเขาจะเห็นหน้าพระองค์
และจะมีชื่อของพระองค์อยู่บนหน้าผากพวกเขา
จะไม่มีกลางคืนอีกต่อไป
และไม่ต้องมีแสงตะเกียงหรือแสงอาทิตย์
เพราะพระยะโฮวาพระเจ้า
จะส่องสว่างให้พวกเขา
และพวกเขาจะปกครองเป็นกษัตริย์ตลอดไป
แล้วทูตสวรรค์พูดกับผมว่า
“คำพูดทั้งหมดนี้เชื่อถือได้และเป็นความจริง
พระยะโฮวาพระเจ้าผู้ที่ดลใจพวกผู้พยากรณ์
ได้ใช้ทูตสวรรค์ของพระองค์
ไปแสดงให้พวกทาสของพระองค์
เห็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นเร็วๆนี้
‘ผมจะรีบมา
คนที่ทำตามคำพยากรณ์
ในม้วนหนังสือนี้ก็มีความสุข’”
คุณรอคอยที่จะนมัสการพระยะโฮวา
ด้วยสุขภาพที่สมบูรณ์
ใต้การปกครองที่สมบูรณ์
ในโลกที่สมบูรณ์ใช่ไหม?
กษัตริย์ของเราก็รอคอยวันนั้นเหมือนกัน
ทูตสวรรค์บอกยอห์นว่า
เรื่องทั้งหมด “จะเกิดขึ้นเร็วๆนี้”
แล้วทูตสวรรค์ก็พูดในนามพระเยซูว่า
“ผมจะรีบมา”
โลกทุกวันนี้มีปัญหามากมาย
แต่พระเยซูจะแก้ไขได้ทั้งหมด
ท่านบอกไว้แล้วว่า
อีกไม่นานศาสนาเท็จจะถูกทำลาย
และท่านจะจัดการกับส่วนที่เหลือ
ในอาร์มาเกดโดน
ท่านจะเหวี่ยงมารซาตานลงไปในขุมลึก
และในที่สุดจะทำลายมัน
และ ‘ศัตรูตัวสุดท้ายที่จะถูกทำลาย
ก็คือ ความตาย’
ทั้งหมดนี้จะต้องเกิดขึ้น
เมื่อไหร่ที่เราสงสัย
ให้เราคิดถึงสิ่งที่ทูตสวรรค์บอกไว้ว่า
“คำพูดทั้งหมดนี้เชื่อถือได้และเป็นความจริง”
เป็นข่าวดีสำหรับทุกคนที่สนับสนุน
พระเยซูคริสต์กษัตริย์ของเรา
เรารู้สึกเหมือนอัครสาวกยอห์น
ที่บอกไว้ในข้อ 20 ว่า
“อาเมน เชิญมาเถอะ พระเยซูผู้เป็นนาย”